การเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้เชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมาพบปะพูดคุยร่วมกันศึกษาวิจัยแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกฯ ได้ขอให้อธิการบดีทุกคนกลับไปคิด วิจัย วิเคราะห์ โดยให้เห็นผลภายในสิ้นเดือนเมษายน ซึ่งที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ครั้งที่ 1/2549 มีมติว่าให้แต่ละมหาวิทยาลัยท

จากการประกาศคว่ำบาตรการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน 2549 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน หลังจากการปฏิเสธของนายกรัฐมนตรีที่จะร่วมลงนามในสัตยาบันที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 313 เพื่อให้มีคนกลางมาเป็นผู้ดำเนินการปฏิรูปการเมือง

การเปิดรับสมัคร ส..แบบแบ่งเขตในวันที่ 4-8 มีนาคม ผมขอวิงวอนให้ประชาชนร่วมกันจับตามอง เพราะอาจมีผู้สมัครกำมะลอ ที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ มาลงสมัคร โดยเฉพาะคุณสมบัติตาม ม.107 (4) ที่ระบุว่า ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียว นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90

จากการที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ออกมาแถลงถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 และแนวโน้มปี 2549 โดยไม่นำปัญหาด้านการเมืองมาเป็นปัจจัยหลักในการคำนวณจีดีพีทั้งหมด เพราะคาดว่าจะยุติได้ไม่เกินกลางปี 2549 นั้น ผมคิดว่าเป็นการด่วนสรุปจนเกินไป สวนทางกับนักวิชาการและองค์กรหลายแห่ง ในความเป็นจริง สถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อจะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าที่สภาพัฒน์คิด

ผมขอยกประโยคจากคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่เวทีหน้าสนามกีฬากลางจังหวัดชลบุรีที่ว่า ldquo;hellip;ผมเสียภาษีมากกว่าพวกมันรวมกันทั้งประเทศอีก...rdquo; ผมเข้าใจว่าประโยคดังกล่าวนี้นายกฯ คงนำไปปราศรัยอีกหลายเวทีทั่วประเทศ

ข้อเสนอของพรรคไทยรักไทยที่กำหนดจุดยืนในการเจรจาหาทางออกทางการเมืองว่า พรรคไทยรักไทยพร้อมจะเจรจา หรือ ldquo;ดีเบตrdquo; 3 ฝ่าย ตามข้อเสนอของพีเน็ต ในวันที่ 24 มีนาคม 2549 โดยให้ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ได้ แต่ทั้งนี้เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะต้องยอมปฏิบัติตาม 2 เงื่อนไข คือ

พรรคไทยรักไทยทำซีดีคำแถลงของรักษาการนายกรัฐมนตรี แจกสมาชิกทั่วประเทศ 5 แสนแผ่น จุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนออกไปลงคะแนน ในวันที่ 2 เมษายนนี้ โดยอ้างว่าเป็นการช่วยกันรักษาประชาธิปไตย