การต่อสู้กันบนถนน ที่อียิปต์เวลานี้ กำลังเกิดกระแสที่สำคัญในการล้มรัฐบาลที่ดูเหมือนเผด็จการและไม่สนใจประชาธิปไตยหรือมีคอรัปชั่นสูง หรือทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเขาไม่มีส่วนร่วม มีเสรีภาพในชีวิตและการเมือง ความเป็นอยู่ของเขาถูกทอดทิ้ง บรรยากาศนี้เคยเกิดขึ้นในอดีตมาแล้วที่ประเทศต่างๆ แต่ตอนนี้จะเริ่มเห็นว่ากระแสการเปลี่ยนแปลงในตูนิเซียได้ทำให้อียิปต์ซึ่งได้รับอิทธิพลแนวคิดอันเกิดจากสื่อสารมวลชน ข่าวที่ไปทั่วถึง ฉะนั้นประชาชนที่มีความรู้สึกคับแค้นใจ ก็ลุกขึ้นมาอย่างที่เห็นในช่วงประมาณหลายวันที่ผ่านมาในถนนเป็นล้านคน ในหลายเมืองระบาดไปหมดเลย คนตายไปมากมาย บาดเจ็บเป็นพันคน สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นชัดเลยว่ากระแสนี้แรงมากและมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาดูอาการคงไม่ปล่อยทิ้งไว้ แล้วมีน้ำเสียงการพูดเหมือนไม่ประคองรัฐบาล ความจริงถ้าพูดให้แรงกว่านั้นคือเหมือนจะให้รัฐบาลลงจากตำแหน่ง รัฐบาลมูบารัคดูอาการจะอยู่ยาก ถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้และประชาชนไม่กลัวกระสุน และยังออกมามากมายขนาดนี้ อีกไม่นานอาจจะเห็นมูบารัค อาจต้องลงจากตำแหน่งและบางทีจำเป็นต้องเดินทางออกนอกประเทศด้วยซ้ำ แล้วก็จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลโดยการปฏิวัติประชาชน นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในอียิปต์ซึ่งเกิดมาแล้วในตูนิเซียและกำลังระบาดไปอีกหลายที่ และจะเริ่มระบาดไปประเทศอื่นๆ จะเริ่มเห็นประเทศแถวตะวันออกกลางหลายประเทศที่มีความรู้สึกอึดอัดอยู่จำนวนหนึ่ง จะระบาดที่ไหนก็ขึ้นอยู่กับประเทศเหล่านั้นมีสถานการณ์เงื่อนไขที่เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่ รัฐบาลนั้นได้ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมอย่างละมุนละม่อมหรือไม่ ถ้าตัดไฟตั้งแต่ต้นลมอย่างไม่ละมุนละม่อมหรือทำไม่ทันเวลาก็จะเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าละมุนละม่อมอาจช่วยให้หนักกลายเป็นเบา สถานการณ์ที่อาจจะลุกลาม เช่น จอร์แดน, ซาอุด้วยอาจจะไม่แน่ หลายประเทศอาจจะตามมา อาจจะเป็นคูเวตหรือประเทศหลายแห่งในบริเวณแถบนั้น ซึ่งถ้าเกิดทฤษฎีโดมิโนใหม่เกิดขึ้น ผมเรียกว่า Neo Domino Theoryก็ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในอียิปต์ถ้าสำเร็จก็จะเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ อีกในเวลารวดเร็ว จะลุกลาม และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนเวทีระหว่างประเทศอันเกิดจากการที่ประชาชนปฏิวัติ และสิ่งเหล่านี้อาจจะลามไปประเทศอื่นๆ ทั่วโลกก็เป็นได้ สาเหตุเพราะกระแสประชาธิปไตยกำลังก้าวรุกคืบมาหลายสิบปีนี้ค่อนข้างมาก และประเทศที่เป็นลักษณะกึ่งประชาธิปไตยมีมากในโลกปัจจุบัน เหตุการณ์ครั้งนี้ถ้าอียิปต์เป็นเหมือนเขื่อนที่กั้นปัญหานี้ไว้ ถ้าปัญหาทะลักอีก อาจลุกลามไปหลายประเทศ เราอาจจะได้เห็นกระแสการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่พอสมควร ยิ่งประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว และถ้าเกิดไม่พอใจรัฐเผด็จการบางแห่งที่เคยเอื้อประโยชน์กัน แล้ววันนี้ไม่เอื้อประโยชน์กันอย่างเหมาะสม หรือสหรัฐอเมริกามองว่าถ้าเปลี่ยนแปลงไปเป็นประชาธิปไตยสูงขึ้น เกิดการเอื้อประโยชน์ได้ดีขึ้น เช่นไปอยู่ที่ชั้นรากฐาน การวางฐานประชาธิปไตยและให้รัฐบาลแบบที่ตัวเองอยากให้เกิดขึ้นเป็นมิตรกับสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ก็คงจะเห็นการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ทีนี้มหาอำนาจอื่นๆ ก็อาจจะเริ่มเข้ามามีบทบาททั้งทางตรงทางอ้อมเพื่อถ่วงดุล

สถานการณ์นี้กำลังจะเกิดขึ้นลุกลาม น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่าการระบาดของการล้มรัฐบาลเผด็จการและเอื้อให้เกิดรัฐบาลของประชาชน ที่เริ่มต้นจากการปฏิวัติประชาชนจะเกิดขึ้น และอาจจะตามมาด้วยการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยในที่สุด