ตลาดกวดวิชานักศึกษาพุ่ง

ปัจจุบันพบว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนหันมากวดวิชากันมากขึ้น โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เมื่อ พ.ศ.2552) ประกอบกับที่ผ่านมาระบบแอดมิชชั่นไม่สามารถคัดกรองผู้เรียนที่มีพื้นฐานความรู้ที่จำเป็นในการเข้าศึกษาต่อบางขณะได้ เช่น ไม่สามารถคัดกรองผู้เรียนที่พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่เพียงพอในการเข้าศึกษาต่อคณะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งกลายเป็นวิกฤตคุณภาพในคณะหรือสาขาวิชาด้านนี้อย่างมาก



สาเหตุประการสำคัญที่ส่งผลให้นักศึกษาหันไปกวดวิชามากขึ้น เนื่องจากคุณภาพการจัดการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่อยู่ในภาวะวิกฤตที่ไม่สามารถเตรียมความพร้อมผู้เรียนและส่งต่อสู่มหาวิทยาลัย ดังเห็นได้จากคะแนนสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (A-NET) ปีการศึกษา 2552 และคะแนนสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (O-NET) ปีการศึกษา 2551 ของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีคะแนนเฉลี่ยไม่ถึงครึ่งหนึ่งของคะแนนเต็ม ส่วนใหญ่คะแนนอยู่ระหว่าง 20-40 คะแนน หรือเกินครึ่งเพียงเล็กน้อยในบางวิชา โดยเฉพาะในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่อยู่เพียง 20-30 คะแนนจาก 100 คะแนนเต็ม ซึ่งหากพื้นฐานทางวิชาการในระดับขั้นพื้นฐานของเด็กยังต่ำอยู่เช่นนี้ จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม สภาพการเข้ากวดวิชาของนักศึกษา มิได้มีเฉพาะในไทย แต่เป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น ในสหราชอาณาจักร มีนักศึกษาปริญญาตรีจำนวนมากเข้าเรียนในสถาบันกวดวิชา ตัวเลขตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2007 เป็นต้นมา จากสถาบันกวดวิชาที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ 2 แห่ง คือ สถาบันกวดวิชาอัลฟาติวเตอร์ (Alpha Tutors) กล่าวว่า มีนักศึกษาปริญญาตรีเข้ามาเรียนในสถาบันเพิ่มขึ้น ร้อยละ 40 และสถาบันกวดวิชาฟลีท ติวเตอร์ (Fleet Tutors) ระบุว่า มีนักศึกษาปริญญาตรีมาเรียนเพิ่มขึ้น 2 เท่า โดยสาขาวิชาที่นักศึกษาเข้าไปเรียน มีทั้งวิชาพื้นฐาน เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นต้น รวมถึงวิชาที่มหาวิทยาลัยเปิดสอน เช่น เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ กฎหมาย ศิลปะ วิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ภูมิศาสตร์ วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน การเงิน การธนาคาร การบัญชี การตลาด ฯลฯ

ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเร่งหาแนวทางแก้ไขวิกฤตคุณภาพการศึกษาไทยอย่างบูรณาการ โดยเฉพาะด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่การให้ทดสอบความถนัดด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพัฒนาการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างมีคุณภาพ และการพัฒนาระบบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยที่มีพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอในการเข้าศึกษาต่อในคณะหรือสาขาที่ต้องการทักษะด้านนี้ในระดับสูง อีกทั้งมีมาตรการเฉพาะหน้า ให้มหาวิทยาลัยปรับพื้นฐานความรู้นักศึกษาใหม่ ก่อนที่จะอนุญาตให้นักศึกษาเลือกคณะหรือสาขาวิชาที่สอดคล้องตามศักยภาพตน ฯลฯ

admin
เผยแพร่: 
0
เมื่อ: 
2009-05-13