การจัดการพื้นที่ป่าที่ถูกทำลาย
กรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไล่รื้อสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ป่าในอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งทำให้เจ้าของกิจการรีสอร์ตที่ถูกรื้อทำลายได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯทำเกินกว่าเหตุ และรัฐบาลตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการปฏิบัติงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในขณะที่นักอนุรักษ์และองค์กรพัฒนาเอกชนต่างออกมาสนับสนุนการดำเนินการอย่างเฉียบขาดของกรมอุทยานแห่งชาติ
ในบทความนี้จะไม่กล่าวถึงประเด็นที่ว่าใครถูกหรือผิดในกรณีข้างต้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมเกิดประเด็นคำถามขึ้นว่า เราควรบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างไร แนวทางการอนุรักษ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะกับกรณีป่าสงวนแห่งชาติเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแล้วหรือไม่ และเราควรจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากการบุกรุกหรือเข้ายึดครองและใช้ประโยชน์ไปแล้วอย่างไร
ผมได้เสนอหลักการหนึ่งในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในหนังสือ ?คานงัดประเทศไทย : ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อพลิกฟื้นประเทศไทย ก่อนเผชิญภาวะวิกฤตรอบด้าน? ไว้ว่า เราควรพยายามใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทุกตารางนิ้วทั้งบนดิน ในน้ำ ใต้ดิน และในอากาศให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

แหล่งที่มา : http://www.creativeculturethailand.com/pic_thumbnail/thumb260511140938.jpg
หลักการที่กล่าวถึงนี้ ผมไม่ได้หมายความว่า เราไม่ควรอนุรักษ์พื้นที่ป่าสงวนไว้ แต่ผมเห็นว่าความพยายามอนุรักษ์หรือป้องกันการบุกรุกทำลายเป็นการบริหารจัดการที่จำเป็น แต่ยังไม่เพียงพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะเรายังไม่ได้มีความพยายามหาทางใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้หรือพื้นที่ป่าเท่าใดนัก
การดำเนินการปกป้องผืนป่ามีข้อจำกัดและขาดประสิทธิภาพ เนื่องจากพื้นที่ป่ามีความกว้างใหญ่ไพศาล ขณะที่กำลังของเจ้าหน้าที่รัฐและงบประมาณมีจำกัด ทำให้ไม่สามารถที่จะตรวจตราหรือยับยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ได้ทั่วถึง
อีกทั้งการให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่รัฐในการตรวจสอบและจับกุมผู้บุรุกทำลาย อาจทำให้เจ้าหน้าที่บางคนใช้อำนาจในทางทุจริตเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัว หรือทำให้เกิดการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อนักการเมือง นายทุนหรือผู้มีอิทธิพลที่เข้าบุกรุกผืนป่า
ในขณะที่ประชาชนในพื้นที่ที่เคยได้รับประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้กลับถูกกีดกันไม่ให้ได้รับประโยชน์ จึงทำให้เกิดความเสี่ยงที่ประชาชนเหล่านี้จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการตัดไม้ทำลายป่า หรือบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อให้เกิดเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริตจะดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อถ่ายโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของนักการเมือง นายทุนหรือผู้มีอิทธิพลในที่สุด
ผมจึงมีความเห็นว่า เราควรพยายามคิดหาวิธีในการใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและประโยชน์ในแง่อื่นๆ จากทรัพยากรธรรมชาติให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ หรือหาวิธีที่ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้อย่างเหมาะสมโดยที่ไม่ทำลายป่า เพื่อให้ประชาชนกลายเป็นกลุ่มผลประโยชน์ที่จะเข้ามาช่วยดูแลทรัพยากรป่าไม้ หรือทำให้ทางการมีรายได้จากการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ เพื่อให้มีความสามารถในการตรวจสอบและป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การพิจารณาอนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปทำการเกษตรบางประเภทและในขนาดที่ไม่กระทบต่อระบบนิเวศน์ในป่า เป็นต้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมหรือพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกทำลายไปแล้ว นอกจากการใช้งบประมาณรัฐเพื่อปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่ทำให้การฟื้นฟูป่ามีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ใช้งบประมาณแผ่นดินน้อยลง
ยกตัวอย่างเช่น
- การให้ชาวบ้านหรือภาคเอกชนเข้าไปปลูกป่าในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมเพื่อแลกกับรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิต
- การนำสิ่งปลูกสร้างบางส่วนของรีสอร์ตมาใช้ประโยชน์ในเชิงการท่องเที่ยว แทนการรื้อทำลายเพียงอย่างเดียว เพื่อให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ มีรายได้สำหรับการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ และยังทำให้ประชาชนที่เป็นลูกจ้างของรีสอร์ตยังคงมีรายได้
- การให้เอกชนพัฒนาพื้นที่เหมืองเก่าที่หมดประทานบัตร ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แทนที่จะปล่อยให้เป็นป่าเสื่อมโทรม หรือเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถทำประโยชน์อะไรได้ เป็นต้น
การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยใช้แนวคิดกีดกันมิให้ผู้ใดมีสิทธิเข้าไปใช้ประโยชน์ในทรัพยากรนั้น และใช้กำลังของเจ้าหน้าที่รัฐในการตรวจสอบและจัดการกับการละเมิดนั้น อาจไม่สามารถทำให้การดูแลรักษาทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันยังทำให้เราไม่ได้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างที่ควรจะเป็น เราจึงจำเป็นต้องพยายามแสวงหาแนวทางใหม่ๆ ในการบริหารจัดการเพื่อให้เราได้ประโยชน์มากขึ้นในขณะเดียวกันก็สามารถรักษาทรัพยากรนั้นให้ลูกหลานได้ด้วย
ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
kriengsak@kriengsak.com, http://www.kriengsak.com
นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
kriengsak@kriengsak.com, http://www.kriengsak.com
Tags:
Post date:
Wednesday, 5 September, 2012 - 15:42