ทรัพยากรมนุษย์

“ผู้เขียนขอเสนอแนวคิดเกี่ยวกับที่มาที่ไปและความแตกต่างของคำว่า ทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource) ทุนมนุษย์ (Human Capital) และ ศักยภาพสูงสุดของความเป็นมนุษย์ (Human Potentiality) เพราะสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดนโยบายที่ส่งเสริมและให้คุณค่าในการพัฒนามนุษย์ 

กรุงเทพธุรกิจ
คอลัมน์ : ดร.แดน มองต่างแดน

ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ พบว่าในปี 2047 จะเป็นครั้งแรกของโลกที่จำนวนประชากรอายุ 60 ปี มีมากกว่าประชากรเด็กบทความก่อนหน้านี้ ผมได้กล่าวถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของโลกในปี 2050 ไปแล้วว่าจะมีทิศทางในอนาคตเป็นอย่างไร ประเทศใดบ้างที่จะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจต่อไป และประเทศไทยควรปรับตัวอย่างไรให้สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของโลกในอนาคต

ทว่า ยังมีความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกด้านหนึ่ง คือ การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างทางสังคม เนื่องจากว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ด้วยเหตุนี้ ผมขอนำเสนอแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางสังคมสำคัญที่จะเกิดขึ้นในปี 2050 ดังต่อไปนี้

ลักษณะโครงสร้างทางสังคมในอีก 40 ปีข้างหน้า จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นสังคมแห่งผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ หรือกล่าวได้ว่า สังคมโลกในอนาคตจะเป็นสังคมที่ผู้สูงอายุครอบครองก็เป็นได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากรของโลก ที่คนเกิดน้อยลงและอายุยืนมากขึ้น ทำให้ประชากรทั่วโลกจะมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้นอย่างน้อย 9 ปี และประชากรทั่วโลกที่มีอายุมากกว่า 65 ปี จะมีจำนวน 2 พันกว่าล้านคน คิดเป็นสัดส่วนได้ 1 ใน 5 หรือร้อยละ 20 ของประชากรทั้งโลก ซึ่งพบได้ในเกือบทุกประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะประเทศอิตาลี เยอรมัน อังกฤษ และสแกนดิเนเวีย รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2010 และจากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ พบว่า ในปี 2047 จะเป็นครั้งแรกของโลกที่จำนวนประชากรอายุ 60 ปี จะมีมากกว่าจำนวนประชากรเด็ก นอกจากนี้ จากการคาดการณ์จำนวนประชากรผู้สูงอายุในปี 2050 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่จะมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุมากเป็นอันดับที่ 2 คือ รองจากประเทศสิงคโปร์ และประเทศลาว เป็นประเทศที่มีสัดส่วนของจำนวนประชากรผู้สูงอายุต่ำที่สุดในกลุ่ม

กรุงเทพธุรกิจ
คอลัมน์ : ดร.แดน มองต่างแดน

หลังจากที่ได้นำเสนอทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลกด้านโครงสร้างประชากรทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรมนุษย์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2050 ผ่านบทความตอนที่แล้วในตอนนี้ผมจึงอยากนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลกในมิติอื่นๆ เพิ่มเติมโดยเฉพาะอย่างยิ่งมิติการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของโลกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดประเทศใดบ้างที่จะก้าวเข้ามาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจต่อไปในปี 2050 และประเทศไทยควรปรับตัวอย่างไรให้สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของโลกในอนาคต

กรุงเทพธุรกิจ
คอลัมน์ : ดร.แดน มองต่างแดน

ผมได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเสวนา"การจัดการด้าน Supply Chain และ Logistics เพื่อเตรียมพร้อมรองรับประชาคมอาเซียน"ซึ่งจัดโดยวิทยาลัยนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ภายใต้หัวข้อบรรยายเรื่อง "Global Trend 2050 (แนวโน้มโลกปี 2050)" ซึ่งผมได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในปี 2050 บทความนี้จะกล่าวถึงสิ่งที่ผมได้นำเสนอไปในงานเสวนาดังกล่าว โดยในตอนแรกจะกล่าวถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโลกในปี 2050 ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร ส่งผลอย่างไรต่อทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดและทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

เมื่อดูจากการคาดการณ์จำนวนประชากรโลกปี 2050 พบว่า จำนวนประชากรโลกจะเพิ่มขึ้น 38% จาก 6.9 พันล้านคน เป็น 9.6 พันล้านคน โดยประชากรจะมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้นอย่างน้อย 9 ปี ประชากรอายุ 15-64 ปีจะเพิ่มขึ้น 33% ในขณะที่ประชากรอายุมากกว่า 65 ปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 181% ดังนั้น หากพิจารณาแนวโน้มดังกล่าวประกอบกับทรัพยากรธรรมชาติที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องอันเนื่องมาจากหลากหลายปัจจัย จะเห็นได้ว่าการตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงด้านทรัพยากรธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันได้แก่ อาหาร น้ำ และพลังงาน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านทรัพยากรมนุษย์วัยแรงงาน จึงเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญ