การเลือกตั้ง

ภายหลังการลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ของสภาร่างรัฐธรรมนูญ และการประกาศวันเลือกตั้งอย่างชัดเจน ประเด็นเศรษฐกิจที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือ ภาวะเศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร

เมื่อพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ แล้ว เศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งน่าจะมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นกว่าปัจจุบัน โดยผมจะอธิบายในแต่ละองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศดังนี้

ภายหลังการลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ของสภาร่างรัฐธรรมนูญ และการประกาศวันเลือกตั้งอย่างชัดเจน ประเด็นเศรษฐกิจที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือ ภาวะเศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร

กรอบการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญในเรื่องที่ว่าด้วยสถาบันทางการเมืองที่ยังไม่เป็นข้อยุติในหลายส่วน ทั้งเรื่องการให้มีหรือไม่มี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เกณฑ์สัดส่วน ส.ส.ต่อประชากร และการกำหนดให้มี ส.ส.แบบแบ่งเขตที่มาจากเขตพื้นที่ใหญ่ มีจำนวน 3 คนต่อเขต ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนได้ 3 เสียง หรือระบบเลือกตั้งแบบเดิมที่กำหนดให้มี ส.ส.แบบเขตเดียวเบอร์เดียว เพื่อนำไปสู่การได้มาซึ่งตัวแทนที่สะท้อนเสียงประชาชนมากที่สุด

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 50 เครือข่ายนักวิชาการทั่วประเทศ ประกาศแถลงการณ์ ldquo;ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับทำลายการปฏิรูปการเมืองrdquo; โดยให้เหตุผลว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้นภายใต้อำนาจเผด็จการหลังรัฐประหาร จะทำให้สังคมไทยหันกลับไปสู่การเมืองยุคเก่า และทำให้การปฏิรูปการเมืองโดยผ่านกระบวนการร่วมกันของสังคมไทยต้องยุติลงอย่างสิ้นเชิง จึงเรียกร้องให้นำเอารัฐธรรมนูญ ปี 2540 กลับมาใช้ใหม่ และให้มีการเลือกตั้งหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญภายใน 60 วัน จากนั้นให้รัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งจัดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการเลือกตั้ง ส.ส.ร.

ดังปรากฏในรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540 มาตรา 3 บัญญัติว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ และในมาตรา 68 บัญญัติว่า บุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง บุคคลซึ่งไม่ไปเลือกตั้งโดยไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่ทำให้ไม่อาจไปเลือกตั้งได้ย่อมเสียสิทธิตามที่กฎหมายบัญญัติ การแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปเลือกตั้งและการอำนวยความสะดวกในการไปเลือกตั้ง ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ

ปัญหาหนึ่งที่เกิดจากการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ได้แก่ การให้ ส.ส.ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่ง ทำให้เกิดปัญหาเมื่อนายกรัฐมนตรีปรับคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่ถูกปรับเปลี่ยน ไม่ได้ดำรงตำแหน่งต่อไป ย่อมกลายเป็นเหมือนผู้ที่เว้นว่างทางการเมืองไปโดยปริยาย

ถึงแม้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 พยายามที่จะเปิดโอกาสให้ ส.ส. ที่สังกัดพรรคมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการไม่ต้องปฏิบัติตามมติหรือข้อบังคับของพรรคหากขัดหรือแย้งกับหลักการพื้นฐานแห่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีสิทธิร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยได้(มาตรา 47) แต่ในความเป็นจริงทางการเมือง หาก ส.ส. ท่านใดฝ่าฝืนมติของพรรค ย่อมถูกตรวจสอบในด้านพฤติกรรมว่าปฏิบัติตามระเบียบวินัยของพรรคหรือไม่ และโอกาสที่พรรคจะไม่ส่งลงสมัครในการเลือกตั้งสมัยหน้าก็มีสูงยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ ส.ส. เกิดความกลัวและปฏิบัติหน้าที่ราวกับหุ่นยนต์ที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง
 
ปัญหาที่เกิดขึ้น กลายเป็นประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ต้องตอบให้ชัดว่า
คำกล่าวที่ว่า ldquo;อย่านอนหลับทับสิทธิ์rdquo; ldquo;รักประชาธิปไตย ต้องไปเลือกตั้งrdquo; เป็นสิ่งที่ตอกย้ำน้ำหนักของความสำคัญในการออกไปเลือกตั้งของประชาชน ประกอบกับการรับรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการไปเลือกตั้งนั้นเป็นทั้งสิทธิ และหน้าที่ที่ประชาชนชาวไทยต้องกระทำ