บัตรสมาร์ทการ์ด . . นัยยะแอบแฝง

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก

(Smart Card) ที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กรมการปกครองดำเนินการ โดยจัดทำแผนเร่งรัดการจัดทำบัตร ระดมสรรพกำลังจากจังหวัดและกรุงเทพมหานคร รวมทั้งนายอำเภอและทะเบียนท้องถิ่นให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ ขยายเวลาการให้บริการ ไม่หยุดพักเที่ยง เปิดให้บริการวันเสาร์ และในบางจังหวัดได้เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้าอีกทางหนึ่ง หลังจากได้มีพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฏรในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 กรมการปกครองได้มีการปรับแผนการทำบัตรลดเวลาลงเฉพาะในเวลาราชการ โดยการเร่งทำจะมีเป็นช่วง ๆ นอกจากนี้ยังมีการริเริ่มโครงการจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่(Mobile Unit) โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ให้กับนักเรียน นักศึกษา ซึ่งได้จัดในระหว่งวันที่ 22 สิงหาคม ndash; 18 กันายายน โครงการจัดทำบัตรประชาชนแบบเอนกประสงค์

การเร่งระดมให้ประชาชนหันมาทำบัตรประชาชนแบบอเนกประสงค์(Smart Card) นี้ทำให้เกิดคำถามที่ว่า เหตุใดรัฐบาลต้องเร่งรีบดำเนินการในช่วงนี้ ทั้งที่กำหนดระยะเวลาของโครงการจะเสร็จสิ้นในปี2551 และสิ่งที่น่าสังเกตอีกประการคือ ในการจัดทำบัตรดังกล่าว รัฐบาลได้เร่งรัดดำเนินการให้กับกลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลจะจัดโครงการสวัสดิการของรัฐให้ อาทิ การจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ไปยังสถานศึกษาเพื่อทำบัตรให้กับนักเรียน นักศึกษา โดยให้เหตุผลว่า เพื่อใช้ในการยืนยันตัวบุคคลและขอรับบริการต่าง ๆ ของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยรัฐบาลพยายามเร่งให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนนี้

ประเด็นที่หลายฝ่ายจับตามองคือ โครงการจัดทำบัตรประชาชนแบบอเนกประสงค์ มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝง เพราะการกระทำของรัฐบาลเสมือนพยายามเร่งผลักดันนโยบายออกมาเพื่อเป็นพันธะที่ติดค้างไว้ โดยหากได้กลับมาเป็นรัฐบาลจะสานนโยบายต่อ ดังเช่นการลงทะเบียนคนจนในช่วงปลายปี 2547 ก่อนการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในปี 48 รัฐบาลทักษิณ 1 ในขณะนั้นได้โหมโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่มีปัญหาหนี้สินขึ้นทะเบียนคนจนให้มาจดทะเบียนไว้ เพื่อจะได้รับความช่วยเหลือ ได้รับสิทธิพิเศษจากรัฐบาล ในการพักชำระหนี้ ตั้งกองทุนช่วยผู้ติดหนี้นอกระบบที่ขึ้นทะเบียนคนจนไว้ หรือมีมาตรการอื่นมาช่วย

การกระทำดังกล่าวทำให้เกิดข้อสงสัยว่า การเร่งรัดดำเนินนโยบายนั้น มีเหตุผลมาจากปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข หรือเป็นเพียงนโยบายในการหาเสียง หรือเป็นการประเมินฐานคะแนนเสียงของรัฐบาล จึงต้องขอฝากมิตรสหายทุกคนร่วมกันจับตามองกันต่อไป