จริงหรือ.......หน้าต่างแห่งโอกาสของเอเชียกำลังจะปิดลง
จากการไปบรรยายใน Milken Institute Global Conference ประจำปี 2551 ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดโดย Milken Institute สถาบันวิจัยอิสระที่เน้นการวิจัย เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและฐานะทางเศรษฐกิจของประชากรในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก การประชุมครั้งนี้ผมได้รับเชิญไปบรรยายวิเคราะห์โอกาสทางการตลาดของเอเชียในอนาคต โดยเน้นการวิเคราะห์จากปัจจัยด้านประชากร
การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เป็นปรากฏการณ์ที่ได้รับการศึกษาวิเคราะห์กันอย่างกว้างขวาง โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว คือ ปัจจัยด้านประชากร
ในอดีตจนถึงปัจจุบัน อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้สูงกว่าภูมิภาคอื่นทั่วโลก อันเกิดจากการที่อัตราการตายและอัตราการเกิดลดลง ส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร โดยประชากรวัยแรงงานมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในขณะที่สัดส่วนประชากรวัยพึ่งพิง (เด็กและคนสูงอายุ) ลดลง ประกอบกับนโยบายและภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้สามารถรองรับแรงงานที่เพิ่มขึ้นได้ ส่งผลทำให้ผลผลิตต่อหัวหรือรายได้ต่อหัวเพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านประชากรเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ยั่งยืน มีระยะเวลาช่วงหนึ่งเท่านั้นที่ ldquo;หน้าต่างแห่งโอกาสrdquo;ได้เปิดออกและจะปิดลงในอนาคต กล่าวคือ เมื่อประชากรวัยแรงงานที่มีเป็นจำนวนมากในปัจจุบันมีอายุสูงขึ้นจนเข้าสู่วัยชราจะทำให้สัดส่วนของคนชราสูงขึ้น แต่สัดส่วนของคนในวัยแรงงานลดลง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตต่อหัวหรือรายได้ต่อหัวประชาชนเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง
หน้าต่างแห่งโอกาสของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเร็วของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร โดยเอเชียตะวันออกจะมีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงปี 2553-2558 จากนั้นสัดส่วนดังกล่าวจะลดลงและเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในที่สุด
ถึงแม้ว่าหน้าต่างแห่งโอกาสของบางประเทศกำลังจะปิดตัวลง แต่เอเชียยังมีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากการปันผลทางประชากรในช่วงที่สอง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มีการสะสมทุนสำหรับการเข้าสู่วัยสูงอายุ ผู้ที่ใกล้เกษียณอายุ หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ พยายามสะสมความมั่งคั่ง เพื่อใช้บริโภคในยามแก่ชราที่มีช่วงเวลาที่นานขึ้น ทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันเกิดจากปัจจัยด้านประชากรอีกระลอกหนึ่ง
รัฐบาลบางประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์ ได้เตรียมการณ์รองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรดังกล่าวแล้ว สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีการเตรียมการณ์เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากนัก หากประเทศไทยขาดนโยบายระยะยาวในการรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรในอนาคต เราคงคาดการณ์ได้ไม่ยากว่า จะเกิดปัญหาความยากจนในกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้น และทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยชะลอตัวลงในระยะยาว
Tags:
เผยแพร่:
หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์
เมื่อ:
2008-06-28