?คืนคลองสวย คืนน้ำใส อย่างยั่งยืน?

หากจะกล่าวถึงปัญหาของกรุงเทพ ฯ ที่ประชาชนต้องการให้หน่วยงานรัฐเร่งแก้ไขนั้น มีหลายปัญหาด้วยกัน ทั้งปัญหาการเดินทาง จราจรที่ติดขัด ปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ประเด็นปัญหาใหญ่ประการหนึ่งที่มีความสำคัญเช่นกัน คือ ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกเมืองทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว และเป็นเรื่องต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย
ในตอนนี้ ผมขอกล่าวถึง ปัญหาเรื่อยมาน้ำเสีย แม้จะมีการทำโครงการเพื่อคืนสภาพให้น้ำในคู คลองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการผันน้ำดีขับน้ำเสีย (Flushing), การใช้จุลินทรีย์หยอดลงในน้ำ หรือการใช้หญ้าแฝกเพื่อกรองของเสีย และในปัจจุบันยังมีน้ำเสีย ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญ เรียกได้ว่าเป็นปัญหาเรื้อรังที่รอการแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะในช่วงที่ผ่านมาจำนวนคลองประมาณ 22 คลองที่ยังมีค่าดีโอในน้ำต่ำกว่ามาตรฐาน
ที่สำคัญ การแก้ไขนั้นเป็นการแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้นดังนั้น น้ำในคู คลอง จึงกลับมาใส หรือไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยเหตุนี้การจะคืนคลองสวย คืนน้ำใส ให้ชุมชนจะต้องแก้ที่ต้นสายและรักษาปลายเหตุ เป็นการคืนสภาพน้ำในคู คลองให้ใสสะอาดอย่างยั่งยืน
การแก้ที่ต้นสาย คือ การที่รัฐจะต้องเอาจริงเรื่องการบังคับใช้กฎหมายต่อโรงงานอุตสาหกรรมเรื่องการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยทิ้ง เพราะที่ผ่านมาการละเลยเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ส่งผลให้บางโรงงานไม่ได้บำบัดน้ำก่อนที่ปล่อยลงคู คลอง จึงทำให้น้ำนั้นเน่าเสีย เพราะจากการสำรวจในปี 2549 ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้ง 817 แห่ง ใน กทม. และอีก 970 แห่ง ในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ พบว่า มี 454 แห่ง ที่มีค่ามลพิษเกินมาตรฐาน นอกจากการเอาจริงในเรื่องการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม การรณรงค์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลอง ไม่ทิ้งของเสียและขยะจากครัวเรือนลงในคลองก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน
รักษาที่ปลายเหตุ หมายถึง การบำบัดน้ำเสียที่มาจากภาคครัวเรือนต่าง ๆ โดยการเพิ่มปริมาณโรงบำบัดน้ำเสียให้สามารถรองรับน้ำเสียได้ครบทั้ง 50 เขต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสีย และการแก้ไขน้ำในคลองที่เน่าเสีย ซึ่งการแก้ไขน้ำในคลอง เริ่มต้นที่การจัดเรียงลำดับความรุนแรงของปัญหา เช่น เริ่มจากคลองที่มีคุณภาพน้ำต่ำ คือ มีค่า DO ไม่ถึง 1 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือที่เรียกกันว่า น้ำเน่าสนิทนั้น อาทิ คลองบางยี่ขัน คลองบางจาก คลองสวนหลวง คลองบางบำหรุ คลองขรัวตาแก่น คลองช่องนนทรี คลองบางโพขวาง คลองบางโพ คลองบางสะแก และคลองสาทร เป็นต้น โดยใช้วิธีการในการบำบัดที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม นอกจากนี้การดึงภาคเอกชนและภาคประชาชนเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียจะเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกรักธรรมชาติ
การแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วน ดังนั้น หากแก้ไขเพียงบางส่วนหรือแก้ไขเพียงบางจุด จะไม่สามารถคืนน้ำใส คืนคลองสวยให้ชุมชนได้ ด้วยเหตุนี้ การดำเนินการแก้ไข จำเป็นต้องดำเนินการควบคู่กันไปทั้งการแก้ไขที่ต้นเหตุและการรักษาที่ปลายเหตุ และการทำงานร่วมกันของทุกภาคฝ่าย เพื่อร่วมกันสร้างให้กรุงเทพ ฯ เป็นเวนิชตะวันออกอีกครั้ง


admin
เผยแพร่: 
0
เมื่อ: 
2008-03-24