พลังใจ


ความหยิ่งบั่นทอนเส้นทางความสำเร็จ แต่ความถ่อมใจช่วยรักษามันไว้...
คนหยิ่งนั้น มักจะคิดว่า ?ฉันรู้หมดแล้ว?  ?ฉันมั่นใจว่าคิดถูก? ?ฉันไม่เคยพลาดเลย? จึงไม่เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่รับฟังคำแนะนำตักเตือน ดึงดันยึดมั่นถือมั่นความคิดตน...ในที่สุดก็ล้มเหลว
มาร์คัม และ สมิธ (Marcum & Smith) ผู้เขียนหนังสือ Economics สำรวจพบว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของธุรกิจที่ตัดสินใจผิดพลาด เกิดจากการขับเคลื่อนด้วยอีโก้ บริษัทที่เคยมีชื่อเสียง กลับล้มเหลวลงอย่างรวดเร็ว เพราะความหยิ่งยโสของผู้บริหาร ที่เชื่อมั่นตนเองเกินไป ไม่ฟังคำแนะนำ ลำพองในอำนาจและความสามารถของตน 

อิมมานูเอล ค้านท์ (Immanuel Kant) นักปรัชญาที่มีชื่อเสียง กล่าวถึงอีโก้ไว้ว่า
อีโก้ คือ ‘ตัวตนเล็ก ๆ ของเราที่มีค่าสูง'
อีโก้ คือ อัตตา หรือ ตัวตน ที่ตัวเองคิดว่า เราเป็นใคร อาจหมายถึง ตัวเราที่เป็นจริง หรือ เป็นเพียงการรับรู้ตนเอง หรือคิดว่าตัวเองเป็นอย่างไร 
อีโก้ของเราแต่ละคน เป็นส่วนผสมผสาน ระหว่าง ความรู้สึกนึกคิด (mind) ร่างกาย (body) และจิตวิญญาณ (soul) ทำให้เราตระหนักรู้ว่า ตัวเรามีอยู่ เราเป็นใคร ต้องการอะไร และควรตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ อย่างไร 
อีโก้มีผลต่อความรู้สึกนึกคิดและการกระทำของเรามากน้อยต่างกัน เพราะส่วนผสมสามส่วนนี้ 
  1. ความรู้สึกนึกคิด (mind) เป็นการใช้สติปัญญา การใช้เหตุผล และอารมณ์ ในการประเมินและตัดสินใจ 
  2. ร่างกาย (body) เป็นการตอบสนองตามสัญชาตญาณ มีความปรารถนา ความต้องการ ความอยาก - อยากมี อยากเป็น อยากได้ เพื่อเติมเต็มความพึงพอใจของร่างกายและจิตใจ 
  3. จิตวิญญาณ (soul) เป็นเรื่


แหล่งที่มาของภาพ : https://p.gr-assets.com/540x540/fit/hostedimages/1382121194/5679696.jpg

     "คำที่มีอักษร 3 ตัว แต่มีพิษร้ายแรงที่สุด คือ คำว่า "ego"  ความทะนง หรือ ความเห็นแก่ตัว เอาชนะมันให้ได้"
     ข้อความนี้ ผมได้รับจากเพื่อนที่ชอบส่งต่อข้อคิดดี ๆ ผ่านมาทางไลน์  เชื่อว่าเมื่อหลายคนได้อ่าน ก็มักจะเห็นด้วยทันทีว่า อีโก้ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี และต้องเอาชนะมันให้ได้ ...
     ในความเป็นจริง ผมคิดว่า ข้อความนี้มองอีโก้ใน "แง่ ร้าย" เกินไป อีโก้โดยตัวมันเองนั้นมีความเป็นกลาง มีทั้ง ส่วนที่ดี และ ส่วนที่ไม่ดี ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่า ให้อีโก้ทำงานของมันอย่างไร?
     หากวิเคราะห์ในสังคม สามารถแบ่งคนออกเป็น 3 กลุ่ม
 
ถ้าเราบริหารตัวเองไม่ได้ เราก็บริหารคนอื่นไม่ได้...
     เป็นความจริงที่ว่า ไม่มีความพ่ายแพ้ใด ที่ทำให้คนล้มแล้ว ลุกขึ้นได้ยากที่สุด เท่ากับ ?แพ้ภัยตัวเอง? 
     เราเคยเห็นไหม..คนบางคนเรียนดีมาก ทำงานเก่งมาก แต่ขณะเดียวกันก็หยิ่งมากด้วย และความหยิ่งนี้เองทำให้เขาไม่เคยฟังคำแนะนำของใครเลย ยิ่งมีตำแหน่งสูง ยิ่งบงการทุกอย่างด้วยตนเอง และแน่นอนว่า ไม่มีใครเก่งได้ตลอด ตัดสินใจถูกต้องได้ตลอด จึงเป็นเหตุให้เขาผิดพลาด ล้มเหลวในที่สุด 
     เราเคยเห็นไหม..คนบางคนตั้งใจทำงานอย่างมาก ขยันขันแข็ง แต่หัวหน้าไม่เคยชมเขาเลย น่าเสียดาย แถมหลายครั้งยังถูกตำหนิด้วย เขารู้สึกน้อยใจ ขมขื่นใจ และทำงานไปวัน ๆ ไม่กระตือรือร้น เพราะคิดว่าทำไปก็เท่านั้น จึงทำ


แหล่งที่มาของภาพ : http://www.ksmartin.com/wp-content/files/iStock_000016143414Medium-Heart-on-keyboard-cropped-for-blog.jpg
 

งานวันนี้
ปีที่ 16 ฉบับที่ 707 วันที่ 7-14 ตุลาคม 2557

 

ผู้นำที่สามารถขับเคลื่อนคนภายใต้ ให้เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันได้ ด้วย ?ความเต็มใจ? ไม่ใช่ด้วย ?สิ่งล่อใจ? คือ ผู้นำที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

ในโลกที่อำนาจเงิน วัตถุ เกียรติ ศักดิ์ศรี ฯลฯ เป็นใหญ่ ผู้นำจึงมักต้องจูงใจคนให้ทำงาน โดยใช้เงินและผลประโยชน์เป็นตัวขับเคลื่อน หรือไม่ก็ใช้อำนาจบังคับ ข่มขืนฝืนใจ ถ้าไม่ทำจะถูกลงโทษ แต่ในความเป็นจริง ถ้าผู้นำมีทักษะในการเคลื่อนใจคน ย่อมสามารถช่วยให้ทีมงานยินดีให้ความร่วมมือด้วยความเต็มใจ โดยใช้อำนาจน้อยที่สุด แต่ใช้การโน้มน้าว การสร้างแรงบันดาลใจ และการเป็นแบบอย่างมากที่สุด

ความสามารถในการขับเคลื่อนทีม จึงเป็นทักษะสำคัญประการหนึ่งที่ผู้นำจำเป็นต้องมี

กรุงเทพธุรกิจ
คอลัมน์ : ดร.แดน มองต่างแดน

ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ พบว่าในปี 2047 จะเป็นครั้งแรกของโลกที่จำนวนประชากรอายุ 60 ปี มีมากกว่าประชากรเด็กบทความก่อนหน้านี้ ผมได้กล่าวถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของโลกในปี 2050 ไปแล้วว่าจะมีทิศทางในอนาคตเป็นอย่างไร ประเทศใดบ้างที่จะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจต่อไป และประเทศไทยควรปรับตัวอย่างไรให้สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของโลกในอนาคต

ทว่า ยังมีความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกด้านหนึ่ง คือ การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างทางสังคม เนื่องจากว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ด้วยเหตุนี้ ผมขอนำเสนอแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางสังคมสำคัญที่จะเกิดขึ้นในปี 2050 ดังต่อไปนี้

ลักษณะโครงสร้างทางสังคมในอีก 40 ปีข้างหน้า จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นสังคมแห่งผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ หรือกล่าวได้ว่า สังคมโลกในอนาคตจะเป็นสังคมที่ผู้สูงอายุครอบครองก็เป็นได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากรของโลก ที่คนเกิดน้อยลงและอายุยืนมากขึ้น ทำให้ประชากรทั่วโลกจะมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้นอย่างน้อย 9 ปี และประชากรทั่วโลกที่มีอายุมากกว่า 65 ปี จะมีจำนวน 2 พันกว่าล้านคน คิดเป็นสัดส่วนได้ 1 ใน 5 หรือร้อยละ 20 ของประชากรทั้งโลก ซึ่งพบได้ในเกือบทุกประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะประเทศอิตาลี เยอรมัน อังกฤษ และสแกนดิเนเวีย รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2010 และจากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ พบว่า ในปี 2047 จะเป็นครั้งแรกของโลกที่จำนวนประชากรอายุ 60 ปี จะมีมากกว่าจำนวนประชากรเด็ก นอกจากนี้ จากการคาดการณ์จำนวนประชากรผู้สูงอายุในปี 2050 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่จะมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุมากเป็นอันดับที่ 2 คือ รองจากประเทศสิงคโปร์ และประเทศลาว เป็นประเทศที่มีสัดส่วนของจำนวนประชากรผู้สูงอายุต่ำที่สุดในกลุ่ม

งานวันนี้
ปีที่ 16 ฉบับที่ 708 วันที่ 14-21 ตุลาคม 2557

 

ผู้บริหาร 2 คน พูดกับทีมงาน หลังจากพบความผิดพลาดเกิดขึ้น....

ผู้บริหารคนที่ 1 ...?ทำงานกันผิดพลาดแบบนี้....ถ้าครั้งหน้าไม่ดีขึ้น ผมจะตัดเงินเดือนไม่ใช่คุณคนเดียวนะ แต่จะตัดเงินเดือนทั้งทีมเลย และถ้าไม่ดีขึ้นอีก ก็เตรียมหางานใหม่ได้เลย?

ผู้บริหารคนที่ 2 ....?ไหนลองวิเคราะห์สิว่า ความผิดเกิดตรงไหน และจะแก้ไขอย่างไร หวังว่า บทเรียนครั้งนี้ จะทำให้เราเรียนรู้และไม่ผิดพลาดอีก ผมเชื่อมั่นในความสามารถของพวกเราทุกคน ขอบคุณในความตั้งใจทำงานมาโดยตลอด?

ถ้าเราเป็นหนึ่งในทีมงาน คิดว่า เราอยากจะทำงานร่วมกับผู้บริหารงานคนไหนมากกว่ากัน?...ถ้าเลือกได้ คงเลือกทำงานกับคนที่ 2 เพราะรู้สึกว่า มีกำลังใจ มีความเชื่อมั่นในตัวเองที่จะทำงานให้ดีขึ้น มากกว่าการทำงานด้วยความกลัวว่าจะถูกตัดเงินเดือน หรือถูกให้ออกจากงาน...


แหล่งที่มาของภาพ : http://rlv.zcache.com/winking_smiley_face_dinner_plate-rea1829c1d7ff49bcb87ad7f0466803e4_ambb0_8byvr_512.jpg?bg=0xffffff

?ความสุข คือ ความหมายและวัตถุประสงค์ของชีวิต เป็นจุดมุ่งหมายและจุดจบทั้งมวลของการดำรงอยู่ของมนุษย์?

อริสโตเติ้ล นักปราชญ์ชาวกรีก ได้ให้ข้อสรุปที่มนุษย์ทุกยุคทุกสมัยปฏิเสธไม่ได้ ..

ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ใคร ๆ ต่างก็อยากมีความสุข และหลีกเลี่ยงความทุกข์ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้