มาตรการแก้ไขหนี้ภาคประชาชนของรัฐบาลอาจสร้างความเสี่ยงในเรื่องศีลธรรม
สถาบันการเงินของรัฐรับภาระหนี้เสีย เสนอ 3 มาตราการอุดรอยรั่วคือ
มาตรการคัดกรองลูกหนี้ มาตรการสร้างค่านิยม และมาตรการเสริมสร้างศักยภาพ
การที่รัฐบาลประกาศมาตรการแก้หนี้ภาคประชาชน โดยให้เหตุผลว่า
เพื่อบรรเทาภาระหนี้แก่กลุ่มคนที่มีรายได้น้อย
และเป็นลูกหนี้ในสถาบันการเงินที่เดือดร้อน ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ
ให้มีโอกาสฟื้นฟูสภาพในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพการงาน
รวมทั้งสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนให้มีความคืบหน้าอย่างแท้จริงนั้นถือว่าเป็นแนวทางที่เกิดจากความตั้งใจดีของรัฐบาล
แต่สิ่งที่ผมมีความห่วงใยว่าแนวทางการแก้ไขหนี้เสียนี้
อาจทำให้เกิดการสุ่มเสี่ยงดังนี้
ความเสี่ยงทางศีลธรรม หรือ
Moral Hazard
เนื่องจากการที่รัฐบาลลดเงินต้นร้อยละ 50
อาจจะส่งผลเสียต่อวัฒนธรรมการชำระหนี้ของประชาชน
ก่อให้เกิดแรงจูงใจให้คนตอบสนองแบบผิด ๆ เพราะการเป็นลูกหนี้ NPL ได้รับประโยชน์มากกว่า
แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศว่าจะดำเนินการเพียงครั้งเดียว แต่การประกาศแก้ไขปัญหาหนี้ทุก
ๆ ครั้งได้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเสมอ ดังเช่นกรณีการลงทะเบียนคนจน
มีลูกหนี้ในระบบสถาบันการเงินถึง 90% ที่เข้าใจผิด
คิดว่ารัฐบาลจะยกหนี้ให้ การที่รัฐจัดทำโครงการแก้ปัญหาหนี้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่
4
ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน นับเป็นการส่งสัญญาณที่เป็นอันตราย
และสร้างค่านิยมว่ารัฐบาลจะต้องเข้ามาแก้ไขหนี้อีกในอนาคต
ความเสี่ยงที่สถาบันการเงินของรัฐต้องรับภาระหนี้เสีย
การที่รัฐบาลให้ธนาคารออมสินปล่อยกู้ด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 1
ต่อเดือนแก่ลูกหนี้ที่มีงานทำแต่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ครบก่อน 6 เดือน
ทำให้ธนาคารต้องเข้ามาแบกรับความเสี่ยงในการปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มลูกหนี้ที่เคยมีประวัติหนี้สูญมาก่อน
ซึ่งมีความเสี่ยงสูงว่าจะเกิดหนี้สูญขึ้นอีก รัฐบาลยังไม่มีหลักประกันว่า ลูกหนี้
ที่เข้าร่วมโครงการจะไม่กลับมาเป็น NPL รอบใหม่อีก
และไม่มีโครงการต่อเนื่องมาช่วยลูกหนี้ที่เข้าโครงการ
เพื่อช่วยให้ฟื้นตัวได้แบบยั่งยืน แต่เป็นเพียงเปลี่ยนเจ้าหนี้รายใหม่เท่านั้น
นอกจากนี้ความไม่รอบคอบในการกำหนดมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล เช่น
ความไม่ชัดเจนในเงื่อนไขเวลาการเป็น NPL การไม่คัดกรองลูกหนี้ที่พฤติกรรมไม่ดี
และความไม่ชัดเจนในการจัดลำดับความสำคัญในการช่วยเหลือลูกหนี้
จะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มาตรการดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชนที่แท้จริง
ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอเสนอมาตรการอุดรอยรั่วของมาตรการแก้ไขหนี้สินภาคประชาชนของรัฐบาล
โดยการกำหนดมาตรการเสริมใน 3 ด้านคือ มาตรการคัดกรองลูกหนี้
โดยการช่วยลูกหนี้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จริง ๆ เป็นอันดับแรก
และกำหนดหลักเกณฑ์ด้านระยะเวลาการเป็น NPL อย่างมีเหตุผล มาตรการสร้างค่านิยม
ให้ความรู้กับลูกหนี้ในการบริหารจัดการด้านการเงิน การลงทุน
ควบคู่ไปกับการสร้างค่านิยมที่ถูกต้อง เช่น วินัยการใช้จ่าย รับผิดชอบ
ไม่อยากเป็นหนี้ ประหยัด การเก็บออมไปพร้อมกัน มาตรการเสริมสร้างศักยภาพ
เพื่อรองรับให้ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการไม่กลับมาเป็น NPL รอบใหม่ เช่น
โครงการอบรมอาชีพเพื่อสร้างอาชีพ จัดหางานเพื่อให้ลูกหนี้มีรายได้เลี้ยงตัวเอง