เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือนพฤษภาคม
2549
ที่จัดเก็บรายได้ได้ต่ำกว่าเป้าหมาย
3,349
ล้านบาท
ส่งสัญญาณอันตรายถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังของปี
2549
และความเสี่ยงที่การจัดเก็บรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ประกอบกับสถานการณ์การเมืองที่มีแนวโน้มว่าจะมีความขัดแย้งที่รุนแรงต่อไปอีก
และมีความเป็นไปได้ที่จะยังไม่มีการเลือกตั้งภายในวันที่
15
ตุลาคม
2549
ทำให้การพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี
พ.ศ.2550
ยิ่งล่าช้าออกไปอีก
ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี
2550
เพราะจะไม่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนของปีงบประมาณ
2550
ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
2549
ภายใต้สถานะของการเป็นรัฐบาลรักษาการซึ่งมีความจำกัดในการใช้นโยบายการคลัง
หากเป็นรัฐบาลที่ประชาชนมีความเชื่อถือจะสามารถใช้เครื่องมืออื่นนอกเหนือจากการอัดฉีดงบประมาณลงสู่ระบบเศรษฐกิจ
แต่ด้วยเหตุที่รัฐบาลรักษาการชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ความน่าเชื่อถือบกพร่อง
ทำให้มีข้อจำกัดในการใช้เครื่องมืออื่น
ๆ
ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในทางทฤษฎี
รัฐบาลสามารถเล่นกับความคาดหวังของประชาชนได้
เพราะหากประชาชนเชื่อถือในคำประกาศนโยบายของรัฐบาล
จะทำให้ประชาชนปรับพฤติกรรมไปตามทิศทางของนโยบายก่อนที่รัฐบาลจะเริ่มใช้นโยบายที่ได้ประกาศออกมา
ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจได้แม้ว่ารัฐบาลยังไม่ได้ดำเนิน
นโยบายนั้นเสียด้วยซ้ำ
เช่น
กรณีที่รัฐบาลประกาศว่าจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งมวลชน
หากประชาชนเชื่อว่ารัฐบาลจะดำเนินโครงการดังกล่าวจริง
จะส่งผลทำให้นักลงทุนและประชาชนปรับตัวไปลงทุนมากขึ้นตามแนวเส้นทางของขนส่งมวลชน
ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวโดยที่
รัฐบาลยังไม่ได้เริ่มโครงการดังกล่าว
หรือกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.)
ประกาศจะควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อในอนาคตได้
และสามารถคาดการณ์ได้ว่า
ในภาวะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น
ธปท.จะใช้นโยบายดอกเบี้ยสูง
ทำให้ประชาชนปรับตัวล่วงหน้าโดยลดการใช้จ่ายและการลงทุน
ซึ่งจะมีผลทำให้แรงกดดันต่อเงินเฟ้อลดลงโดยที่
ธปท.ยังไม่ได้ทำอะไร
อย่างไรก็ตาม
พฤติกรรมที่ผ่านมาของรัฐบาลชุดนี้ได้ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือ
และยังมีพฤติกรรมที่ทำให้องค์กรอื่นของรัฐที่ทำหน้าที่ดูแลนโยบายเศรษฐกิจของประเทศถูกลดความน่าเชื่อถือลงด้วย
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ
การประกาศนโยบายต่าง
ๆ
แล้วไม่ทำตามนโยบายนั้นจริง
เช่น
โครงการเมืองใหม่นครนายก
โครงการศูนย์กลางการซื้อขายพลังงานในภูมิภาค
รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงจำนวนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า
ซึ่งรัฐบาลประกาศออกมาอย่างใหญ่โตแต่ไม่ได้
ดำเนินการจริง
ทำให้นักลงทุนและประชาชนที่ปรับตัวล่วงหน้า
เพื่อไปลงทุนในพื้นที่และกิจการที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวต้องประสบกับ
ความเสียหาย
ประการต่อมาคือความไม่เชื่อถือในความโปร่งใสของรัฐบาลในการจัดทำโครงการต่าง
ๆ
เพราะรัฐบาลชุดนี้มีพฤติกรรมที่ทำให้ประชาชนสงสัยว่ามีการทุจริตคอร์รัปชันและมีผลประโยชน์ทับซ้อนในการจัดทำโครงการขนาดใหญ่
ทำให้ประชาชนไม่เชื่อว่าโครงการลงทุนต่าง
ๆ
ของรัฐบาลจะเป็นไปอย่างโปร่งใส
และยังมีความกังวลว่าโครงการของรัฐจะไม่ประสบความสำเร็จเพราะอาจจะถูกต่อต้านจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
รัฐบาลยังส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกับ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยเฉพาะการที่ผู้มีอำนาจในกระทรวงการคลังแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของ
ธปท.อย่างชัดเจน
ทำให้สังคมเกิดความเชื่อที่ว่ารัฐบาลจะดำเนินนโยบายการคลังที่ขัดแย้งหรือหักล้างกับนโยบายการเงินของ
ธปท.
ซึ่งอาจจะทำให้การดำเนินนโยบายการเงินขาดประสิทธิภาพ
จนทำให้
ธปท.ไม่สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมายได้
พฤติกรรมในการกำหนดนโยบายของรัฐบาลที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ประกอบกับความไม่โปร่งใส
และการแสดงท่าทีในการกำหนดนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับหน่วยงานอื่นของรัฐ
ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือต่อคำประกาศนโยบายของรัฐบาล
สังเกตได้จากแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศจะ
ก่อสร้างรถไฟฟ้า
3
เส้นทาง
แต่มีประชาชนจำนวนมากที่ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะทำจริงหรือจะทำได้จริง
ประชาชนและนักลงทุนจึงไม่กล้าที่จะขยับตัวไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศออกมา
ทำให้ไม่มีแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจอันเกิดจากความเชื่อมั่นของประชาชน
อาการรอคอยและเฝ้าดูจึงยังดำเนินอยู่ต่อไป
ผมจึงขอเสนอให้รัฐบาลสร้างความชัดเจนของนโยบายว่าจะทำโครงการอะไร
เมื่อใด
อย่างไร
โครงการจะแล้วเสร็จเมื่อใด
และแสดงหลักฐานว่ารัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอในการดำเนินโครงการ
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนซึ่งไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะดำเนินการจริง
สำหรับการดำเนินโครงการเมกะโปรเจกต์
รัฐบาลควรศึกษาอย่างรอบคอบ
และให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเพียงพอ
รวมทั้งจัด
ลำดับความสำคัญด้วยหลักเกณฑ์ที่เป็นวิชาการ
ตลอดจนดำเนินการอย่างโปร่งใสโดยกำหนดรายละเอียดของโครงการอย่างชัดเจนก่อนการเปิดประมูล
และการเปิดเผยสัญญา
รวมทั้งยกเลิกการให้นายกรัฐมนตรีและนักการเมืองเข้ามาเป็นคณะกรรมการพิจารณาการประมูล
ในสถานะของรัฐบาลรักษาการ
แม้มีความจำกัดในการใช้นโยบายการคลัง
แต่หากรัฐบาลมีพฤติกรรมที่น่าเชื่อถือ
โดยการส่งสัญญาณทางเศรษฐกิจ
ที่ถูกต้อง
และกำหนดโยบายที่มีความชัดเจนและมีเสถียรภาพ
รัฐบาลคงไม่ยากลำบากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดังที่เกิดขึ้นในเวลานี้
|