เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
คำพูดของท่านนายกฯ ที่เป็นความแข็งกร้าวเด็ดขาดอาจก่อปัญหามากกว่าแก้ปัญหา
ในการแก้ไขสถานการณ์ภาคใต้ในเวลานี้ คำพูดของท่านนายกฯ
หลายข้อความแสดงถึงอารมณ์โกรธต่อผู้ก่อความไม่สงบ
ไม่ได้สะท้อนหลักเมตตาธรรมตามที่ท่านนายกฯ ได้ให้สัญญาว่าจะใช้
เห็นได้จากการพูดผ่านรายการนายกฯทักษิณคุยกับประชาชนเมื่อวันที่
24
กันยายน
2548
อาจยิ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งและความไม่เข้าใจกันรุนแรงขึ้น
อาทิ
การกล่าวว่า
ถ้าใครไม่อยากเป็นคนไทยก็ให้บอกมา
ทุกคนต้องเลือกเพียงสัญชาติเดียวเท่านั้น
อาจจะทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าคนที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทยเป็นคนชั่วร้าย
ควรถูกผลักไสไปให้ไกล ๆ แผ่นดินไทยไม่ต้อนรับ
อาจยิ่งสร้างความแตกแยกระหว่างคนในแผ่นดิน นายกฯ ควรพูดด้วยความเมตตา
ควรหาแนวทางที่ทำให้ประชาชนรวมเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่นำเรื่องสัญชาติมาทำให้เป็นจุดใหญ่
ดังท่อนเพลงที่ทุกคนคุ้นเคยที่ร้องว่า จะเกิดภาคไหน
ๆ ก็ไทยด้วยกัน
เพราะแผ่นดินไทยไม่ได้ประกอบด้วยชนชาติเพียงชนชาติเดียว แต่มีหลายชนชาติ
ตั้งแต่อดีตทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขจนถึงปัจจุบัน
หรือคำกล่าวที่ว่า ถ้าผู้บังคับบัญชาอ่อนแอ
ผมจะเข้าไป ใครไม่ดีเอาออกมาอย่าสร้างปัญหากับประชาชน
การพูดของท่านนายกฯ เช่นนี้อาจสร้างความกดดันให้กับหน่วยงานต่าง ๆ
ที่ทำงานในพื้นที่
ซึ่งการควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ในภาวะปัจจุบันเป็นไปด้วยความยากลำบาก
เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ย่อมต้องการกำลังใจอย่างมาก ทางที่ดีกว่านายกฯ
ควรแสดงความเห็นใจผู้ร่วมงานมากกว่าที่จะผลักใส
ซึ่งท่านนายกฯ
เองเป็นคนหนึ่งที่ได้เคยเรียกร้องให้คนทั้งประเทศให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในพื้นที่
การพูดของท่านนายกฯ ค่อนข้างขัดแย้งกับหลักเมตตาธรรม
เพราะเมตตาธรรมต้องมาจากความคิดและจิตใจ
สะท้อนออกมาเป็นคำพูด และนโยบายที่นำมาแก้ปัญหา
นายกฯ
เป็นเสมือนหัวเรือใหญ่ในการนำทิศทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นนายกฯ
จึงควรระมัดระวังทั้งความคิด คำพูด
และการกระทำที่จะส่งผลในทิศทางที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น
แม้ว่านายกฯ
จะมีความตั้งใจจะใช้หลักเมตตาธรรมในการแก้ไขสถานการณ์
แต่การใช้คำพูดที่แข็งกร้าวในการตอบโต้เหตุการณ์ต่าง ๆ อาจจะให้เข้าใจว่าเป็นหลักเมตตาเทียมมากกว่าเมตตาธรรม
|