Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์

 

คุณสมบัติประธานวุฒิสภาที่พึงประสงค์
Desirable Qualifications of the Senatorial Chairman

 

25 เมษายน 2549

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก 

ผลการเลือกตั้ง สว. ที่ออกมาทั้ง 200 คน ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นา ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงครหาว่าเป็นสภาผัวเมีย สภาเครือญาตินักการเมือง  หรือการแบ่งแยกเป็น สว. ซีกรัฐบาล สว.ซีกไม่ใช่รัฐบาล ฯลฯ  โดยประเด็นถกเถียงล่าสุดคือในบรรดาว่าที่ สว. ทั้ง 200 คนนั้น ใครจะเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดในการดำรงตำแหน่งเป็น “ประธานวุฒิสภา” คนต่อไป

การคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานวุฒิสภาจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะสามารถควบคุมและดำเนินกิจการของวุฒิสภาให้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ  ท่ามกลางความท้าทายและปัญหาต่าง ๆ รอบด้าน อาทิ ความแตกแยกใน สว. ในการแบ่งขั้วตรงข้ามกันอย่างชัดเจน การกอบกู้ภาพลักษณ์ สว. ในปัจจุบันที่ถูกเพ่งเล็งว่าอาจไม่มีความเป็นกลาง ท่ามกลางสภาพการเมืองที่ภาคประชาชนมีพลังในการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจากสภาพการเมืองภายใต้ประแสโลกซึ่งจะมีผลเป็นอย่างยิ่งต่อการกำหนดนโยบายต่าง ๆ ภายในประเทศ 

ผมจึงขอเสนอเป็นแนวทางว่า ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานวุฒิสภาคนต่อไปนั้นควรที่จะเป็นคนที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ครับ

ประธานที่เป็นกลางทางการเมือง สว.ชุดนี้เป็น สว.ที่มีทั้งความหลากหลาย เช่น เป็นตัวแทนจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ มาจากหลายอาชีพ หลายสถานภาพและบทบาททางสังคม ในขณะเดียวกันก็มีความคล้ายคลึงร่วมด้วย เช่น ภูมิภาคเดียวกัน อาชีพเดียวกัน แนวคิดที่ใกล้เคียงกัน ฯลฯ ความคล้ายคลึงเหล่านี้ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มของ สว.กลุ่มต่าง ๆ ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และอาจเป็นผลกระทบตามมาทำให้การตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ของสว.มีอคติ ขาดการพิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรมได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งประธาน สว. เอง ที่อาจเกิดอคติได้โดยไม่รู้ตัว หากไม่ระมัดระวัง ดังนั้น “ความเป็นกลาง” จึงเป็นคุณลักษณะที่สำคัญยิ่งอีกองค์ประกอบหนึ่งของประธานสว. คนใหม่นี้

ประธานนักประสานฝ่ายต่างๆ จากเหตุผลที่ว่า สว. ชุดนี้มาจากหลายกลุ่มซึ่งอาจมีความแตกต่างทางความคิดและวิธีปฏิบัติ ความแตกต่างเหล่านี้อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและขาดคามเป็นเอกภาพในการพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง  อันเป็นเหตุให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของประธาน สว. ในการประสานประโยชน์ให้ทุก ๆ ฝ่ายเกิดความพึงพอใจได้อย่างมีเอกภาพ ประธาน สว.จึงต้องมีคุณลักษณะของ “นักประสานฝ่ายต่างๆ” ต้องเก่งในการจัดสรรแนวทางต่างๆ ให้ลงตัว 

ประธานที่ได้รับการยอมรับและมีความน่าเชื่อถือ บุคคลที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธาน สว. นั้น จำเป็นต้องได้รับการยอมรับนับถือจาก สว. ทุก ๆ คน และจากภายนอกด้วย ต้องเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ มีประวัติดี มีวุฒิภาวะ รักสันติ ไม่เล่นพรรคเล่นพวก เมื่อเสนอแนะหรือตัดสินใจสิ่งใด ก็จะมีคนฟังและให้การเชื่อถือยอมรับ บุคคลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวจะช่วยให้การจัดการเรื่องต่าง ๆ ทำได้โดยง่าย

ประธานที่บริหารจัดการเป็น ประธาน สว. ต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการเพื่อให้ สว. ทั้งคณะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ในขณะประชุม ประธานต้องเป็นผู้บริหารคำตัดสิน และเป็นผู้ที่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันระหว่างที่ประชุมได้ ท่ามกลางความขัดแย้งหรือความคิดเห็นแตกต่างที่อาจเกิดขึ้น

ประธานที่ใช้กฎหมายเป็น ไม่ได้หมายความว่าประธาน สว. ต้องเป็นนักกฎหมาย แต่ที่จำเป็นคือต้องมีความเข้าใจความเป็นกฎหมาย โดยรู้ว่าหากกฎหมายนี้ออกไปจะส่งผลกระทบกับสิ่งต่าง ๆ อย่างไรบ้าง มีความจำเป็นและเร่งด่วนมากน้อยเพียงใด ผู้ใช้กฎหมายมีความพร้อมหรือไม่ บทบัญญัติในแต่ละข้อครอบคลุมประเด็นที่ต้องการหรือไม่ อีกทั้งต้องพิจารณาว่าร่างกฎหมายต่าง ๆ นั้น มีเบื้องหลังหรือแนวคิดในการร่างเพื่ออะไร มีเงื่อนงำของผลประโยชน์ของบางกลุ่มบางพวกแฝงอยู่หรือไม่ และพิจารณาว่าเหมาะสมที่จะให้ออกมาบังคับใช้หรือไม่

ประธานที่มองอย่างองค์รวม และคิดเชิงบูรณาการ ประธาน สว. ต้องเข้าใจในสัจธรรมที่ว่า สิ่งต่าง ๆ  นั้นไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่เชื่อมโยงสัมพันธ์กับบริบทแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม กฎหมายที่คิดว่าออกมาเพื่อประโยชน์คนกลุ่มน้อยอาจส่งผลร้ายต่อคนกลุ่มใหญ่ในระยะยาวได้ หากเรามองเพียงบางส่วน บางมุม บางด้าน ดังนั้น ในการพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่งประธาน สว. จึงควรเป็นผู้ที่พยายามผลักดันให้ สว. ทุกคนมององค์ประกอบแวดล้อมให้รอบด้านอย่างเป็นองค์รวม   มองให้ครบถ้วนทุก ๆ มุม  คำนึงให้ครบทุกองค์ประกอบ ประธาน สว. จึงควรเป็นผู้มีความรอบรู้ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา สังคม มีความเข้าใจในมิติระหว่างประเทศ และสามารถบูรณาการเชื่อมโยงมุมมองด้านต่าง ๆ เหล่านั้นเข้าด้วยกันในการพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

ประการสุดท้ายที่อยากฝากไว้ให้เป็นคุณสมบัติประจำใจของประธาน สว. นั่นคือ ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ไม่ว่าพิจารณาเรื่องใด ๆ ก็ตาม ซึ่งผลประโยชน์ของชาติในที่นี้หมายถึง ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นโดยรวมแก่คนในชาติ ไม่ใช่ผลประโยชน์แก่รัฐ หรือ คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นผลประโยชน์ที่โดยเฉลี่ยแล้วเกิดผลดีมากกว่าผลเสียต่อคนกลุ่ม ต่าง ๆ ในประเทศ ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว

คุณสมบัติดังกล่าวนี้เป็นข้อเสนอที่ฝากไว้ให้อยู่ใน “ภาคปฏิบัติ” ของประธานวุฒิสภาคนใหม่ เพื่อสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อประโยชน์สูงสุดแก่คนไทยทุกคน ที่ได้มอบความไว้วางใจทั้งหมดของพวกเขา ให้แก่สมาชิกวุฒิสภาเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้หนึ่งในการกำหนดความเป็นไปของประเทศชาติในอนาคต

 



-------------------------------