เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ผลการเลือกตั้ง
สว.
ที่ออกมาทั้ง
200 คน
ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง
ๆ นา ๆ
ไม่ว่าจะเป็นเสียงครหาว่าเป็นสภาผัวเมีย
สภาเครือญาตินักการเมือง
หรือการแบ่งแยกเป็น
สว.
ซีกรัฐบาล
สว.ซีกไม่ใช่รัฐบาล
ฯลฯ
โดยประเด็นถกเถียงล่าสุดคือในบรรดาว่าที่
สว. ทั้ง
200
คนนั้น
ใครจะเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดในการดำรงตำแหน่งเป็น
ประธานวุฒิสภา
คนต่อไป
การคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานวุฒิสภาจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เพื่อที่จะสามารถควบคุมและดำเนินกิจการของวุฒิสภาให้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
ท่ามกลางความท้าทายและปัญหาต่าง
ๆ
รอบด้าน
อาทิ
ความแตกแยกใน
สว.
ในการแบ่งขั้วตรงข้ามกันอย่างชัดเจน
การกอบกู้ภาพลักษณ์
สว.
ในปัจจุบันที่ถูกเพ่งเล็งว่าอาจไม่มีความเป็นกลาง
ท่ามกลางสภาพการเมืองที่ภาคประชาชนมีพลังในการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งจากสภาพการเมืองภายใต้ประแสโลกซึ่งจะมีผลเป็นอย่างยิ่งต่อการกำหนดนโยบายต่าง
ๆ
ภายในประเทศ
ผมจึงขอเสนอเป็นแนวทางว่า
ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานวุฒิสภาคนต่อไปนั้นควรที่จะเป็นคนที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ครับ
ประธานที่เป็นกลางทางการเมือง
สว.ชุดนี้เป็น
สว.ที่มีทั้งความหลากหลาย
เช่น
เป็นตัวแทนจาก
76
จังหวัดทั่วประเทศ
มาจากหลายอาชีพ
หลายสถานภาพและบทบาททางสังคม
ในขณะเดียวกันก็มีความคล้ายคลึงร่วมด้วย
เช่น
ภูมิภาคเดียวกัน
อาชีพเดียวกัน
แนวคิดที่ใกล้เคียงกัน
ฯลฯ
ความคล้ายคลึงเหล่านี้ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มของ
สว.กลุ่มต่าง
ๆ
ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
และอาจเป็นผลกระทบตามมาทำให้การตัดสินใจเรื่องต่าง
ๆ ของสว.มีอคติ
ขาดการพิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรมได้
ไม่เว้นแม้กระทั่งประธาน
สว.
เอง
ที่อาจเกิดอคติได้โดยไม่รู้ตัว
หากไม่ระมัดระวัง
ดังนั้น
ความเป็นกลาง
จึงเป็นคุณลักษณะที่สำคัญยิ่งอีกองค์ประกอบหนึ่งของประธานสว.
คนใหม่นี้
ประธานนักประสานฝ่ายต่างๆ
จากเหตุผลที่ว่า
สว.
ชุดนี้มาจากหลายกลุ่มซึ่งอาจมีความแตกต่างทางความคิดและวิธีปฏิบัติ
ความแตกต่างเหล่านี้อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและขาดความเป็นเอกภาพในการพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
อันเป็นเหตุให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ดังนั้น
จึงเป็นหน้าที่ของประธาน
สว.
ในการประสานประโยชน์ให้ทุก
ๆ
ฝ่ายเกิดความพึงพอใจได้อย่างมีเอกภาพ
ประธาน
สว.จึงต้องมีคุณลักษณะของ
นักประสานฝ่ายต่างๆ
ต้องเก่งในการจัดสรรแนวทางต่างๆ
ให้ลงตัว
ประธานที่ได้รับการยอมรับและมีความน่าเชื่อถือ
บุคคลที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธาน
สว.
นั้น
จำเป็นต้องได้รับการยอมรับนับถือจาก
สว.
ทุก ๆ คน
และจากภายนอกด้วย
ต้องเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ
มีประวัติดี
มีวุฒิภาวะ
รักสันติ
ไม่เล่นพรรคเล่นพวก
เมื่อเสนอแนะหรือตัดสินใจสิ่งใด
ก็จะมีคนฟังและให้การเชื่อถือยอมรับ
บุคคลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวจะช่วยให้การจัดการเรื่องต่าง
ๆ
ทำได้โดยง่าย
ประธานที่บริหารจัดการเป็น
ประธาน
สว.
ต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการเพื่อให้
สว.
ทั้งคณะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เช่น
ในขณะประชุม
ประธานต้องเป็นผู้บริหารคำตัดสิน
และเป็นผู้ที่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันระหว่างที่ประชุมได้
ท่ามกลางความขัดแย้งหรือความคิดเห็นแตกต่างที่อาจเกิดขึ้น
ประธานที่ใช้กฎหมายเป็น
ไม่ได้หมายความว่าประธาน
สว.
ต้องเป็นนักกฎหมาย
แต่ที่จำเป็นคือต้องมีความเข้าใจความเป็นกฎหมาย
โดยรู้ว่าหากกฎหมายนี้ออกไปจะส่งผลกระทบกับสิ่งต่าง
ๆ
อย่างไรบ้าง
มีความจำเป็นและเร่งด่วนมากน้อยเพียงใด
ผู้ใช้กฎหมายมีความพร้อมหรือไม่
บทบัญญัติในแต่ละข้อครอบคลุมประเด็นที่ต้องการหรือไม่
อีกทั้งต้องพิจารณาว่าร่างกฎหมายต่าง
ๆ นั้น
มีเบื้องหลังหรือแนวคิดในการร่างเพื่ออะไร
มีเงื่อนงำของผลประโยชน์ของบางกลุ่มบางพวกแฝงอยู่หรือไม่
และพิจารณาว่าเหมาะสมที่จะให้ออกมาบังคับใช้หรือไม่
ประธานที่มองอย่างองค์รวม
และคิดเชิงบูรณาการ
ประธาน
สว.
ต้องเข้าใจในสัจธรรมที่ว่า
สิ่งต่าง
ๆ
นั้นไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว
แต่เชื่อมโยงสัมพันธ์กับบริบทแวดล้อมต่าง
ๆ
ทั้งทางตรงและทางอ้อม
กฎหมายที่คิดว่าออกมาเพื่อประโยชน์คนกลุ่มน้อยอาจส่งผลร้ายต่อคนกลุ่มใหญ่ในระยะยาวได้
หากเรามองเพียงบางส่วน
บางมุม
บางด้าน
ดังนั้น
ในการพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่งประธาน
สว.
จึงควรเป็นผู้ที่พยายามผลักดันให้
สว.
ทุกคนมององค์ประกอบแวดล้อมให้รอบด้านอย่างเป็นองค์รวม
มองให้ครบถ้วนทุก
ๆ มุม
คำนึงให้ครบทุกองค์ประกอบ
ประธาน
สว.
จึงควรเป็นผู้มีความรอบรู้ทั้งด้านการเมือง
เศรษฐกิจ
การศึกษา
สังคม
มีความเข้าใจในมิติระหว่างประเทศ
และสามารถบูรณาการเชื่อมโยงมุมมองด้านต่าง
ๆ
เหล่านั้นเข้าด้วยกันในการพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
ประการสุดท้ายที่อยากฝากไว้ให้เป็นคุณสมบัติประจำใจของประธาน
สว.
นั่นคือ
ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
ไม่ว่าพิจารณาเรื่องใด
ๆ ก็ตาม
ซึ่งผลประโยชน์ของชาติในที่นี้หมายถึง
ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นโดยรวมแก่คนในชาติ
ไม่ใช่ผลประโยชน์แก่รัฐ
หรือ
คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
แต่เป็นผลประโยชน์ที่โดยเฉลี่ยแล้วเกิดผลดีมากกว่าผลเสียต่อคนกลุ่ม
ต่าง ๆ
ในประเทศ
ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว
คุณสมบัติดังกล่าวนี้เป็นข้อเสนอที่ฝากไว้ให้อยู่ใน
ภาคปฏิบัติ
ของประธานวุฒิสภาคนใหม่
เพื่อสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และก่อประโยชน์สูงสุดแก่คนไทยทุกคน
ที่ได้มอบความไว้วางใจทั้งหมดของพวกเขา
ให้แก่สมาชิกวุฒิสภาเหล่านี้
ซึ่งเป็นผู้หนึ่งในการกำหนดความเป็นไปของประเทศชาติในอนาคต
|