เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ผมได้นำเสนอความเหมือนระหว่างรัฐบาลของประธานธิบดีเฟอร์ดินาล
มาร์กอสในอดีต
กับการบริหารงานของรัฐบาลทักษิณมาแล้วสองครั้ง
รัฐบาลทั้งสองยุคนอกจากจะมีความเหมือนในด้าน
การวางรากฐานอำนาจ
การออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง
รวมไปถึงการแทรกแซงสื่อ
ทั้งสองรัฐบาลยังมีความเหมือนกันอีกประการหนึ่ง
คือ
การกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
เมื่อมองย้อนกลับไปในยุคของรัฐบาลมาร์กอส
ได้ใช้อำนาจรัฐเพื่อปรับปรุงและจัดระบบระเบียบสังคมในประเทศฟิลิปปินส์ในเวลานั้น
โดยการประกาศใช้กฎอัยการศึก
ซึ่งทำให้ประชาชนฝ่ายต่อต้านนับพันคนถูกคุมขัง
รวมไปถึงการหายสาบสูญของผู้ต่อต้านจำนวนหนึ่ง
ที่ถูกอุ้มฆ่าโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัยที่อยู่ภายใต้การนำของมาร์กอส
นอกจากนี้
มาร์กอสยังระงับใช้กฎหมายที่กำหนดให้ต้องส่งตัวผู้ต้องหาไปฟ้องร้องต่อศาล
อีกทั้งอนุญาตให้ตำรวจจับใครก็ได้
โดยไม่ต้องมีหมายจับ
ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคนในประเทศ
ทำให้และประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิอย่างที่ตนเองมีภายใต้ระบอบประชาธิปไตยได้
ตัวอย่างที่ชัดเจน
คือ
เหตุการณ์ในเดือนมกราคม
ปี
1970
ที่ประธานาธิบดีอนุญาตให้ใช้กำลังสลาย
กลุ่มนักศึกษาที่มาชุมนุมประท้วง
ทำให้นักศึกษา
6
คนเสียชีวิต
และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
การละเมิดสิทธิมนุษยชนได้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนในรัฐบาลทักษิณ
อาทิ
การประกาศทำสงครามยาเสพติดจนทำให้มีการวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดจำนวน
2,849
ศพ
การเข้าสลายการชุมนุมม็อบท่อก๊าซไทย-มาเลย์รุนแรงเกินความจำเป็น
โดยที่ตำรวจ
500
นาย ใช้ไม้กระบองไล่ตีกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าโรงแรมเจบี
หาดใหญ่
ขณะที่ทำละหมาด
การสังหารหมู่ผู้ก่อความไม่สงบที่หนีเข้าไปหลบใน
มัสยิดกรือเซะ
106
ศพ
รวมไปถึงการใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมที่
สภอ.ตากใบ
จนทำให้มีผู้เสียชีวิต
85
รายจากการขนย้ายผู้ต้องหาที่ผิดวิธี
มาตรการสำคัญที่ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงใน
3
จังหวัดภาคใต้
คือ
การประกาศกฎอัยการศึก
ซึ่งต่อมารัฐบาลได้เปลี่ยนเป็น
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ของรัฐในการตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องสงสัยได้เลยทันที
กฎหมายดังกล่าวมีส่วนทำให้เกิดคดีที่ประชาชนสูญหายโดยไร้ร่องรอยเป็นจำนวนมาก
ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าอาจจะถูกอุ้มฆ่าโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
ตัวอย่างที่ชัดเจนและโด่งดังที่สุด
คือ การหายสาบสูญไปของทนายสมชาย
นีละไพจิตร
ซึ่งมีความชัดเจนในชั้นศาลแล้วว่า
ตำรวจเป็นผู้พาตัวทนายสมชายไป
เพียงแต่ยังไม่พบหลักฐานการตายของทนายสมชายเท่านั้น
การใช้นโยบายของรัฐบาลทักษิณนับเป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจนและรุนแรง
จนทำให้องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยและต้องการเข้ามาตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกรณีต่าง
ๆ
รวมทั้งองค์การสหประชาชาติยังได้จัดอันดับความรุนแรงในการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยให้อยู่ในอันดับที่แย่ลง
หากรัฐบาลของประธานาธิบดีมาร์กอส
ถูกจัดให้เป็นรัฐบาลที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ
อำนาจนิยม
โดยมีดัชนีชี้วัดสำคัญ
คือการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ดังนั้นการที่รัฐบาลทักษิณที่มีพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันในการละเมิดสิทธิมนุษยชน
เราจึงอาจจะจัดให้รัฐบาลนี้อยู่ในพวกเผด็จการ
อำนาจนิยมได้เช่นกัน
-------------------------------
|