เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
จากกรณีที่เกิดรถไฟฟ้าใต้ดินชนกันเป็นครั้งที่
5
ถ้านับจากวันที่
15
เมษายน
2547
ซึ่งเป็นวันเริ่มทดลองใช้เกิดเบรกติดจนไหม้
ถัดมาวันที่
17
มกราคม
2548
เกิดเหตุการณ์รถไฟฟ้าใต้ดินชนกัน
มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
วันที่ 5
กุมภาพันธ์
2548
รถหยุดวิ่งกระทันหันเพราะไฟฟ้าดับ
วันที่ 20
ในเดือนเดียวกัน
เกิดมีเส้นลวดติดในกล่องต้องหยุดวิ่งบริการ
และครั้งล่าสุด
เมื่อวันที่
21
มีนาคม
2548
เวลา
08.15
น.
ประตูโบกี้รถไฟฟ้าไม่สามารถเปิดออกได้เพราะรถไม่ตรงกับช่องประตูของสถานี
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลายครั้งครา
ก่อให้เกิดประเด็นคำถามหนึ่งขึ้นในใจว่า
หากรถไฟฟ้าใต้ดิน
เปิดให้บริการตามกำหนดเดิม
จะช่วยให้มีเวลาทดสอบและเตรียมความพร้อมก่อนการใช้งานจริงที่รอบคอบกว่านี้หรือไม่?
แม้ว่าระบบที่นำมาใช้กับรถไฟฟ้าใต้ดินจะเป็นระบบที่ดีที่สุดก็ตาม
อุบัติเหตุซ้ำซ้อนที่เกิดขึ้นนี้
นับเป็นกรณีตัวอย่างที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่า
โครงการ
Mega Project
อภิมหาโครงการ
4
แสนล้านเนรมิตรสร้างรถไฟฟ้า
7
สี 7
เส้นทาง
ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและบนดิน
รวมระยะทาง
247
กิโลเมตร
ซึ่งรัฐบาลได้หาเสียงแก่ประชาชนไว้ว่าจะทำให้เสร็จภายใน
6
ปี
ซึ่งเร็วกว่าแผนโครงการที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและการจราจร
(สนข.)
ซึ่งได้กำหนดไว้
15
ปี
ในขณะที่รถไฟฟ้าใต้ดินเส้นแรก
ระยะทางเพียง
20
กิโลเมตร
ยังต้องสร้างถึง
8
ปี
น่าสงสัยว่าโครงการเหล่านี้จะสามารถรับประกันความปลอดภัยให้ประชาชนได้มากน้อยเพียงใด
เพราะเพียงแค่เส้นเดียวยังเกิดปัญหามากมายขนาดนี้
จึงอยากฝากให้รัฐบาลเพิ่มความรอบคอบก่อนการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าทั้ง
7
เส้น ต้องมั่นใจ
100%
ว่าบุคลากรที่ไม่มีประสบการณ์จำนวนมากจะมีความพร้อม
มั่นใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นและการตรวจสอบระบบที่ต้องเพิ่มขึ้นเป็น
7
เท่าจะสมบูรณ์
ที่สำคัญ
รัฐบาลควรพิจารณาว่าระยะเวลา
6
ปีนั้นในการสร้างนั้น
สั้นเกินไปหรือไม่
และคุ้มหรือไม่กับการเอาชีวิตประชาชนมาเสี่ยง
ในเรื่องที่สามารถจัดการด้วยความรอบคอบได้