เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ผลของปรากฏการณ์ลานีญ่าที่ทำให้ปริมาณฝนมากขึ้นและน้ำทะเลหนุนสูง
ส่งผลให้หลายพื้นที่ทั่วประเทศกำลังประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักอยู่ในขณะนี้
โดยเฉพาะหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แหล่งน้ำในธรรมชาติได้
ที่ผ่านมาการแก้ปัญหาน้ำท่วมใน
กทม.
มักดำเนินการโดยการสูบน้ำออกจากพื้นที่ชั้นในออกไปยังพื้นที่ชั้นนอกซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มและพื้นที่เกษตรกรรม
แต่สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำทะเลหนุนในปีนี้
ทำให้จำเป็นต้องลดปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่
กทม.
โดยการผันน้ำสู่พื้นที่เกษตรกรรมในต่างจังหวัดด้วย
สิ่งที่ตามมาจากการผันน้ำเข้าพื้นที่ที่รองรับน้ำ
คือ
ความเสียหายของเจ้าของพื้นที่นั้น
รัฐบาลและ
กทม.จึงได้จัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยความเสียหายแก่เจ้าของพื้นที่
ดังรายงานความเสียหายทั่วประเทศ
พบว่า
ในส่วน
กทม.
พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายประมาณ
150,000
ไร่
ได้จ่ายเงินชดเชยไปแล้วประมาณ
80
ล้านบาทและในพื้นที่อื่นประมาณ
800,000
กว่าครัวเรือน
ที่ได้รับความเสียหาย
รัฐบาลได้จ่ายเงินชดเชยไปแล้วประมาณ
927.49
ล้านบาท
หากพิจารณาจำนวนเงินที่ได้ชดเชยเปรียบเทียบกับความเสียหายแล้วถือว่ายังไม่เพียงพอ
ในบางพื้นที่ก็ยังไม่ได้รับเงินชดเชย
ซึ่งรัฐบาลยังต้องอนุมัติเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม
ในอนาคต
เราอาจต้องประสบกับปัญหาอุทกภัยที่รุนแรงอีก
ซึ่งรัฐบาลจะต้องรับภาระในการจัดสรรงบประมาณจำนวนมาก
เพื่อนำไปชดเชยความเสียหาย
และอาจส่งผลกระทบต่องบประมาณในด้านอื่น
ๆ
หรือในอีกแง่หนึ่ง
รัฐอาจไม่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับการช่วยเหลือประชาชนก็เป็นได้
ซึ่งทำให้ประชาชนต้องประสบกับความยากลำบากในการดำเนินชีวิต
ผมจึงขอเสนอมาตรการในการประกันความเสียหาย
และการชดเชยความเสียหายจากภัยน้ำท่วม
ซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
โดยมีมาตรการ
2
ประการ
ดังนี้
มาตรการแรก
คือ
จัดให้มีกองทุนป้องกันอุทกภัย
ซึ่งยึดหลักการประกัน
หรือการรับผิดชอบความเสี่ยงร่วมกัน
โดยให้มีการจัดเก็บค่าประกันจากประชาชนในทุกพื้นที่
เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือในกรณีที่เกิดอุทกภัย
โดยให้ความคุ้มครองและชดเชยความเสียหายจากภัยน้ำท่วม
นอกจากนี้ในช่วงภาวะปกติที่ไม่มีอุทกภัย
เงินบางส่วนอาจจะนำมาใช้ในการพัฒนาระบบป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วม
เช่น
การขุดลอกคูคลอง
ทำคันกั้นน้ำ
จัดซื้อเครื่องสูบน้ำ
เป็นต้น
มาตรการต่อมาคือ
จัดให้มีกองทุนเพื่อชดเชยความเสียหายจากอุทกภัย
โดยยึดหลักการที่ว่า
ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการผันน้ำออกจากพื้นที่ของตน
ควรมีส่วนจ่ายเงินชดเชยความเสียหายให้แก่ผู้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ทั้งนี้เพื่อให้รัฐมีเงินเพียงพอสำหรับการชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ
หรือได้รับความเสียหายจากผันน้ำเข้ามาในพื้นที่ของตน
วิธีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนทั้ง
2
ดังกล่าว
อาจจัดเก็บร่วมกับระบบภาษีปกติที่ทำเป็นประจำทุกปี
เช่น
การปรับโครงสร้างภาษีโรงเรือนหรือภาษีที่ดิน
โดยอัตราเงินประกันและเงินชดเชยเข้าไปในการคำนวณเป็นภาษีโรงเรือนหรือภาษีที่ดินของแต่ละพื้นที่ด้วย
แล้วจึงนำมาแยกไว้ในบัญชีเฉพาะสำหรับการจัดการปัญหาน้ำท่วมเท่านั้น
โดยมีระเบียบการใช้จ่ายเงินในบัญชีนี้อย่างชัดเจน
แนวทางดังกล่าวเป็นการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ
เพื่อสนับสนุนให้รัฐบาลมีงบประมาณที่เพียงพอในการป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วม
รวมทั้งชดเชยให้กับผู้ประสบภัยได้อย่างเพียงพอ
|