เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
Do the
minimum
daily
wage in
line
with the
current
economic
situation?
มาตรการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาลยังมีช่องว่าง
จากกระบวนการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
และหลักเกณฑ์ในการพิจารณาขึ้นค่าจ้างที่ยังไม่เหมาะสม
ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าแรงไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และกระทบภาพรวมของเศรษฐกิจ
การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศเพิ่มขึ้นตั้งแต่
2-8
บาทนั้น
ผมเห็นว่าส่วนหนึ่งเป็นเรื่องที่ดีเนื่องจากค่าจ้างของแรงงานควรเพียงพอกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น
การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจึงมีความจำเป็นในระดับหนึ่ง
เพราะจะทำให้ประชาชนมีรายได้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจมากขึ้น
รวมทั้งผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น
คือผู้ที่มีรายได้น้อย และคนยากจน แรงงานไร้ฝีมือ และข้าราชการระดับผู้น้อย
อย่างไรก็ตาม ผมยังไม่เห็นด้วยใน 2
ประเด็นคือ กระบวนการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ และหลักเกณฑ์ในการพิจารณาขึ้นค่าจ้างที่ยังไม่เหมาะสม
ประเด็นที่
1
กระบวนการกำหนดค่าจ้างที่ยังไม่เหมาะสม
กระบวนการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ผ่านมา ขาดหลักเกณฑ์ที่เป็นวิทยาศาสตร์
เพราะใช้การเจรจาต่อรองระหว่างภาครัฐ นายจ้าง ลูกจ้าง
ทำให้ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นนั้น ขึ้นอยู่กับอำนาจต่อรองของแต่ละฝ่าย
ไม่ได้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริง เป็นกระบวนการที่ขาดความละเอียด
ในความเป็นจริงแต่ละจังหวัดยังมีสภาพเศรษฐกิจของเมืองและชนบทของจังหวัดนั้น ๆ
ที่แตกต่างกัน ภาวะของแต่ละอุตสาหกรรมก็แตกต่างกัน
การใช้นโยบายเหมารวมแบบเดียวกันทั้งหมดกับทุกอุตสาหกรรม
และทุกพื้นที่ในแต่ละจังหวัดจึงอาจไม่เหมาะสม
ประเด็นที่
2
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาขึ้นค่าจ้างไม่เหมาะสม
การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ
โดยพิจารณาเฉพาะประเด็นการทำให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นเท่ากับอัตราเงินเฟ้อ
เป็นการพิจารณาที่ง่ายเกินไป
ในความเป็นจริง การขึ้นค่าจ้างส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ
ต้องพิจารณาผลกระทบในภาพรวมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราการว่างงาน
อัตราเงินเฟ้อ ดุลบัญชีเดินสะพัด การขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นอกเหนือจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อช่วยเหลือแรงงาน
ผมเสนอว่า รัฐบาลควรมีมาตรการช่วยเหลือคนยากจน
และแรงงานนอกระบบที่มีรายได้น้อยอย่างเจาะจง มีการเตรียมมาตรการรองรับคนว่างงานที่จะเพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งควรมีการปรับปรุงระบบและแนวทางการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำให้มีความเหมาะสม
และสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงมากขึ้น
ซึ่งอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในเชิงเศรษฐศาสตร์มากกว่า
และส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจน้อยกว่า
|