เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ความคับข้องใจเกี่ยวกับการนำมหาวิทยาลันออกนอกระบบ
ยังคงเป็นประเด็นที่คุกกุร่นอยู่ในความรู้สึกของหลายคน
โดยล่าสุดข่าวการอดข้าวประท้วงของนักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา
และมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่
19
กุมภาพันธ์
และการออกมาแสดงความคิดเห็นของประธานที่ประชุมประธานสภาอาจารย์แห่งประเทศไทย
(ปอมท.)
กรรมการสิทธิมนุษยชน
เพื่อขอให้มีการชะลอการพิจารณาร่าง
พ.ร.บ.
ดังกล่าวนั้นออกไป
เป็นเครื่องบ่งชี้ว่า
สังคมยังคงมีความกังวลใจในหลายประเด็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายฉบับนี้
ประเด็นหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง
และนำไปสู่การขัดข้องไม่ยอมออกนอกระบบ
คือ
ความกังวลในเรื่องค่าธรรมเนียมการศึกษาที่จะเพิ่มมากขึ้น
และจะกระทบต่อนักศึกษาและผู้ปกครองที่จะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินจริง
แม้ว่าปัจจุบันรัฐบาลพยายามจัดสรรเงินอุดหนุนให้กับมหาวิทยาลัย
อาทิ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
4,999
ล้านบาท
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2,848
ล้านบาท
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
2,048
ล้านบาท
แต่งบประมาณเหล่านั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
หากพิจารณาในภาพรวมแล้ว
การออกนอกระบบนั้น
มีแนวโน้มทำให้การบริหารงานของมหาวิทยาลัยมีประสิทธิภาพ
มีอิสระในการบริหารจัดการ
เกิดความคล่องตัวในการบริหารงาน
ด้วยเหตุนี้หากเราหาทางแก้ปัญหาเรื่อง
“เงินทุน”
สนับสนุนการศึกษา
จะช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการผลักภาระค่าใช้จ่ายแก่นักศึกษาเกินจริงลงได้
แบบอย่างการระดมทุนจากฮาร์วาร์ด
ประสบการณ์ที่ผมได้ไปทำวิจัยที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
พบว่า
การที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้สามารถระดมทุนเข้ามหาวิทยาลัยได้เกือบ
30
พันล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งมากกว่ามหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นเกือบเท่าตัว
เช่น
มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
15.2
พันล้านเหรียญสหรัฐ
มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
8.1
พันล้านเหรียญสหรัฐ
เนื่องมาจากปัจจัยหลัก
4
ปัจจัยคือ
การระดมทุนผ่านการบริจาค
ในระยะเริ่มแรกการระดมทุนนั้นมาจากการการบริจาคในรูปแบบต่าง
ๆ อาทิ
เงินบริจาคจากศิษย์เก่า
กลุ่มผู้ประกอบการที่รวมตัวกัน
และบริจาคเงินรายปีแก่มหาวิทยาลัย
รวมถึงการบริจาคเป็นสิ่งปลูกสร้างเพื่อประโยชน์ใช้สอยของมหาวิทยาลัย
เช่น
อาคารเรียน
ห้องสมุด
การตั้งบริษัทเพื่อบริหารจัดการ
ความสามารถในการระดมทุนเป็นเงินจำนวนมหาศาล
มาจากการมองการณ์ไกลของผู้บริหารที่จัดตั้งบริษัทชื่อ
บริษัทบริหารจัดการมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ทำหน้าที่นำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนในช่องทางที่หลากหลาย
เช่น
ซื้อหุ้น
ตราสารหนี้
อสังหาริมทรัพย์
รวมถึงการได้รับเงินปันผลจากโครงการในมหาวิทยาลัย
เงินบริจาค
งบประมาณเพื่อการวิจัยจากรัฐบาลและบริษัทต่าง
ๆ
การแต่งตั้งตัวแทนเพื่อทำหน้าที่ระดมทุน
มีการคัดเลือกผู้บริหารที่มีความคิดก้าวหน้าในการบริหารการเงินและการลงทุน
และเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการบริหารการเงินและการลงทุนมาก่อน
มาบริหารงานในส่วนของบริษัท
รวมถึงให้อธิการบดีทำหน้าที่รณรงค์หาเงินบริจาคตามเมืองต่าง
ๆ
เพื่อสนับสนุนภารกิจของมหาวิทยาลัย
ให้สามารถรักษาความเป็นเลิศไว้
การสนับสนุนจากรัฐบาล
รัฐบาลมีส่วนสนับสนุนให้เกิดการบริจาคเพื่อการศึกษาในรูปของกฎหมายด้านกฎหมายด้านภาษี
ซึ่งสร้างแรงจูงใจให้คนจำนวนไม่น้อยหันมาบริจาคเงินเพื่อสถานศึกษา
เพราะต้องการลดการจ่ายภาษีด้วยการสร้างตึกให้กับมหาวิทยาลัย
สำหรับการจัดสรรเงินในกองทุนเพื่อพัฒนามหาวิทยาลัยนั้นมีหลายรูปแบบ
เช่น
การสนับสนุนศูนย์วิจัย
การจ้างศาสตราจารย์เข้ามาสอน
รวมถึงการจัดสรรไปยังวิทยาลัยหรือคณะต่าง
ๆ ในฮาร์วาร์ด
นอกเหนือจากค่าหน่วยกิตที่ได้รับจากนักศึกษา
และจัดสรรเป็นทุนการศึกษาแก่นักศึกษา
เพื่อเปิดโอกาส
นักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือก
จะมีเงินเพียงพอในการเรียน
มองกลับมาสู่มหาวิทยาลัยของไทย
ผมเห็นว่าเราสามารถประยุกต์และนำหลักการระดมทุนมาใช้อย่างเหมาะสมได้
เช่น
การรับบริจาคจากเอกชน
การผลักดันงานวิจัยใหม่
ๆ
ออกสู่ตลาดและจดลิขสิทธิ์
เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนและพัฒนาคุณภาพการศึกษา
และสนับสนุนทุนเพื่อการศึกษาได้มากขึ้น
รวมถึงรัฐบาลควรมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างวัฒนธรรมการบริจาคเพื่อการศึกษาให้เกิดขึ้นในสังคม
ดังตัวอย่างของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ใช้กลไกภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจในการบริจาคเพื่อการศึกษา
ในยุคเปลี่ยนผ่านมของมหาวิทยาลัยไทย
การระดมทุนเพื่อการพัฒนาคุณภาพเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย
หากแต่หน้าที่ประการสำคัญที่มหาวิทยาลัยไม่ควรทิ้งคือ
การรับใช้สังคม
และการให้โอกาสกับคนทุกระดับในการรับการศึกษา
ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำให้เกิดขึ้นต่อไป
|