ผลการสำรวจของ
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)
พบว่า
สาเหตุของเด็กที่กู้ยืมเงินจาก
กยศ.แล้วยังไม่มาชำระหนี้ซึ่งมีประมาณร้อยละ
30
และยังไม่มีงานทำว่า
มีสาเหตุสำคัญ
4
ประการคือ
1.เรียนสาขาที่ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานของประเทศ
2.เรียนสาขาที่มีมากกว่าความต้องการ
3.เด็กที่จบ
ม.6
แล้วไม่ได้เรียนต่อมีครอบครัว
ไม่ได้ทำงานที่ดี
หรือว่างงาน
4.เด็กเรียนจบ
ปวช.แล้วไม่ได้ทำงาน
ทั้งนี้สาขาที่เด็กเรียนแล้วไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
อาทิ
สังคมศาสตร์
มนุษยศาสตร์
ศิลปกรรมศาสตร์
หรือหลักสูตรที่ตลาดมีความต้องการ
แต่ผลิตมากเกินจนความต้องการของตลาด
อาทิ
นิติศาสตร์
รัฐศาสตร์
บริหารธุรกิจ
ส่วนกลุ่มที่เรียนจบ
ปวช.แล้วไม่ทำงาน
แต่ไปเรียนต่อยอดปริญญาตรี
อาทิ จบ
ปวช.
ด้านช่างยนต์
ช่างกล
แต่กลับไปเรียนด้านบริหารธุรกิจ
ซึ่งเป็นสาขาที่ความต้องการล้นตลาด
ภาพดังกล่าวสะท้อนว่า
การศึกษาไทยยังคงวนซ้ำในเรื่องเดิมคือ
ความไม่สอดคล้องกันระหว่างตลาดการศึกษากับตลาดแรงงาน
โดยเป็นความไม่สอดคล้องทั้งใน
“เชิงปริมาณ”
และ
“คุณภาพ”
เห็นได้จากการผลิตบัณฑิตประสบปัญหาแรงงานระดับอุดมศึกษาล้นตลาด
และทำงานต่ำกว่าวุฒิการศึกษาเริ่มปรากฎชัดมากขึ้น
ส่วนหนึ่งเกิดจากคุณสมบัติของบัณฑิตที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
การผลิตกำลังคนที่ขาดแคลนหรือเกินในบางสาขา
คณะกรรมการการอุดมศึกษาเปิดเผยเมื่อเดือนพฤษภาคม
2549
ว่าการผลิตกำลังคนมีสัดส่วนสายสังคมศาสตร์:
วิทยาศาสตร์อยู่ที่
70 : 30
ทั้งที่ตลาดแรงงานต้องการกำลังคนสายวิทยาศาสตร์ในสัดส่วนที่สูงกว่ามาก
นอกจากนี้ผลกระทบที่เกิดจากการเน้นผลิตบัณฑิตระดับอุดมศึกษามากเกินไป
ยังทำให้ขาดแคลนแรงงานในระดับกลาง
โดยเฉพาะผู้ที่จบการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
(ปวช.)
และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
(ปวส.)
ซึ่งกว่าร้อยละ
80
ของผู้จบการศึกษาในระดับนี้มักจะเรียนต่อในระดับปริญญาตรี
สาเหตุเพราะที่ผ่านมามีการเร่งเปิดหลักสูตรระดับการอุดมศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนในระดับอุดมศึกษา
และสภาพความเป็นอิสระของมหาวิทยาลัยโดยปราศจากกลไกในการควบคุมทิศทางการจัดการอุดมศึกษาทั้งระบบ
เกิดการสูญเปล่า
ไม่คุ้มค่า
หรือขาดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและจัดสรรทรัพยากร
รวมทั้งยิ่งทำให้การอุดมศึกษาผลิตกำลังคนไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและทิศทางการพัฒนาประเทศมากขึ้นไปอีก
ประกอบกับในปีการศึกษา
2549
เป็นปีที่เริ่มให้มีการให้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้อนาคต
(ICL)
จะยิ่งทำให้ยิ่งไหลเข้าอุดมศึกษามากขึ้น
ยิ่งเป็นการเปิดเสรีทุกคนมีโอกาสจะศึกษาต่อได้อย่างเท่าเทียมกันโดยใช้เงินกองทุน
หากรัฐบาลไม่ได้พิจารณาหาแนวทางและวิธีป้องกันปัญหาบัณฑิตล้นตลาดแรงงานโดยเฉพาะบางสาขาที่มีแนวโน้มมากขึ้น
อาจทำให้ปัญหาการตกงานของบัณฑิตในอนาคตมีมากขึ้นอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
รวมถึงโอกาสในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยจะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากอย่างแน่นอน