Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์

ทักษิณกับมาร์กอส
Taksin & Ferdinand Marcos

 

17 มีนาคม 2549

 

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก

จากการศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศฟิลิปปินส์ ในยุคของประธานาธิบดี เฟอร์ดินาล มาร์กอส ผมได้พบความคล้ายคลึงกันของผู้นำประเทศต่างยุคต่างสมัยกัน ระหว่างรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ และรัฐบาลไทยในปัจจุบันในหลาย ๆ ประเด็น อาทิ
แก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มและรักษาอำนาจให้กับตนเอง

ในช่วงที่ครองอำนาจ ประธานาธิบดีมาร์กอสได้ความพยายามเพิ่มและรักษาอำนาจของตนเอง โดยเฉพาะความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในปี 1971 เพื่อให้ตนเองสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้ ซึ่งได้มีข่าวอื้อฉาวว่ามากอร์สพยายามติดสินบนให้ผู้เข้าร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ โหวตแก้ไขให้ประธานาธิบดีสามารถดำรงตำแหน่งเกินกว่า 8 ปีหรือ 2 สมัย แต่ความพยายามดังกล่าวไม่สำเร็จ มาร์กอสจึงประกาศกฎอัยการศึกในวันที่ 21 ..1972 หลังจากนั้นอีก 14 ปีต่อมา เขาปกครองฟิลิปปินส์ในแบบเผด็จการ

พฤติกรรมดังกล่าวคล้ายกับสิ่งที่รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร พยายามทำในช่วงที่ผ่านมา เช่น การออกพระราชกำหนดการบริหารราชการแผ่นดินในภาวะฉุกเฉิน
..2548 เพื่อเพิ่มอำนาจเด็ดขาดให้กับนายกฯ การผลักดันร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุม เพื่อให้นายกฯและรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงพิจารณาและถือเป็นมติคณะรัฐมนตรี โดยไม่จำเป็นต้องประชุม ครม.ทั้งคณะ และล่าสุดคือการออก พ...ยุบสภา ซึ่งกำหนดวันเลือกตั้งอย่างกระชั้นชิด เพื่อให้พรรคไทยรักไทยได้เปรียบในการเลือกตั้ง และประเด็นที่เราต้องติดตามต่อไป คือ จะมีความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาอำนาจให้ตนเองหรือไม่

แทรกแซงและปิดกั้นสื่อ ในยุคของประธานาธิบดีมาร์กอส เป็นยุคที่สื่อสารมวลชนของฟิลิปปินส์ขาดเสรีภาพ เพราะสถานีวิทยุมีกลุ่มทุนที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลเป็นเจ้าของ และมาร์กอสยังได้ให้เครือญาติรวมไปถึงเพื่อนของตนควบคุมหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ แต่หลังจากการตายของเบนิญโญ อาร์คีโน ผู้นำฝ่ายค้านของฟิลิปปินส์ จากการถูกลอบสังหาร ซึ่งมีการครหาว่าเป็นการบงการของประธานาธิบดี หนังสือพิมพ์ในฟิลิปปินส์จึงเริ่มปลอดจากการเมืองมากขึ้น

ในยุคสมัยของรัฐบาลทักษิณ  ชินวัตร สื่อสารมวลชนในประเทศไทยถูกแทรกแซงและปิดกั้นไม่แตกต่างกัน ทำให้ไม่สามารถสื่อสารความจริงให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่ ดังตัวอย่างของกรณีที่ชินคอร์ปเข้าถือหุ้นใหญ่ในไอทีวี และย้ายบรรณาธิการข่าวของไอทีวี
เพราะไปวิจารณ์การแก้ปัญหาไข้หวัดนกของนายกฯ รวมทั้งการปลดผู้สื่อข่าวไอทีวี 23 คน การปลดบรรณาธิการและบรรณาธิการข่าวสายความมั่นคงของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ การฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ที่เสนอข่าววิพากษ์วิจารณ์ธุรกิจครอบครัวของนายกฯ การปิดวิทยุชุมชนที่วิจารณ์รัฐบาล รวมไปถึงการแทรกแซงสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง แต่หลังจากการชุมนุมขับไล่นายกฯ มีความเข้มข้นมากขึ้น การเสนอข่าวของโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์จึงเริ่มมีความเป็นกลางมากขึ้น

นี่คือบางส่วนที่ผมอยากจะนำเสนอ ความเหมือนของผู้นำทั้งสองประเทศซึ่งใช้วิธีการที่ไม่แตกต่างกัน ในการรักษาอำนาจของตนเองให้ได้นานที่สุด