Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์

777 ส่วนผสมที่ลงตัวของคณะกรรมการสรรหา ปปช.

 

16 มิถุนายน 2548

 

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก

ผมได้มีโอกาสได้ชี้แจงในสภา เรื่ององค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช
. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไปครั้งที่ 17 เมื่อวันพุธที่ 15 มิถุนายน 2548 โดยได้เสนอส่วนผสมองค์ประกอบของคณะกรรมการที่จะสร้างความสมดุลให้กับองค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหาชุดใหม่ นั้นคือ สูตร 7 7 7

การจัดองค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหา ปปช
. ที่ผมได้นำเสนอในการประชุมนั้น ผมได้แปรญัตติโดยเสนอสัดส่วนของคณะกรรมการสรรหาฯ ดังนี้

ตัวแทนฝ่ายตุลาการ
7 คน ประกอบด้วยประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด และผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรที่ต้องคงไว้ตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ เพราะประกอบด้วยบุคลากรผู้ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม เป็นเหมือนกับมโนธรรมของสังคม

ตัวแทนจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยของรัฐที่เป็นนิติบุคคล
7 คน
ซึ่งผมเห็นว่าไม่ควรลดสัดส่วนลงตามร่างที่คณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไข  เพราะถือว่าตัวแทนอธิการบดีนั้นเป็นนักวิชาการ มีคุณวุฒิ เป็นเสมือนสมองของสังคม ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความเป็นอิสระและความเป็นกลางสูง

ตัวแทนจากภาคประชาชน
7 คน
ผมได้แปรญัตติไว้ว่า ให้ตัดสัดส่วนของตัวแทนฝ่ายการเมือง  เพราะทั้งร่างฯ ของฝ่ายรัฐบาลและร่างฯ ที่คณะกรรมาธิการแก้ไขมานั้น มีช่องว่างทางกฎหมายอยู่ แต่การที่จะตัดสัดส่วนนักการเมืองออกนั้น เรายังต้องคงเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญไว้คือ การเป็นองค์กรที่เข้ามาใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชน ซึ่งผมได้เสนอให้มีตัวแทนจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จำนวน 5 คน และตัวแทนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน อีก 2 คน เข้ามาแทนเนื่องจากการได้มาซึ่งตัวแทนในองค์กรทั้งสองนั้น มีความชอบธรรม เพราะมีวิธีสรรหาตัวแทนที่หลากหลาย จากกลุ่มคนต่าง ๆ ในสังคม ดังนั้นจึงเป็นองค์กรที่มีความเป็นอิสระสูง และสามารถเป็นตัวแทนของประชาชน เป็นเสมือนเรี่ยวแรงกำลังวังชาของสังคมที่จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้

ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของสูตร
777 ซึ่งผมเห็นว่า หลักการสำคัญของการได้มาซึ่งคณะกรรมการสรรหา ปปช. นั้นกระบวนการต่าง ๆ ควรมีความเป็นกลาง มีวิจารญาณ มีอิสระ องค์คณะมีความสมดุล มีความหลากหลาย ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และมีความจริงใจ เพื่อให้ได้องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ที่ทำหน้าตรวจสอบการทำงานของ ข้าราชการประจำและนักการเมือง อย่างมีอิสระ สมกับเป็นองค์กรพิเศษ ที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ..2540 ได้จัดตั้งขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่นี้แทนประชาชนทั้งประเทศ