สวัสดีครับ
มิตรสหายทุกท่าน
ก่อนที่รัฐบาลใหม่จะเริ่มทำงานได้มีการประกาศนโยบายออกมามากมาย
ซึ่งนโยบายที่สำคัญประการหนึ่ง
คือ
การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ
สังคม การศึกษา
โดยการปรับโครงสร้างภาษี
และจูงใจคนให้ปฏิบัติตาม
โดยกำหนดให้สามารถนำค่าใช้จ่ายไปหักลดหย่อนภาษีได้
ผมเห็นว่าวิธีดังกล่าวเป็นวิธีการที่ดี
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากเสนอความเห็น
คือ
รัฐบาลควรมีการศึกษาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
ตามหลักวิชาการก่อน
เนื่องจาก
ที่ผ่านมามีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า
การนำเอานโยบายมาบังคับใช้โดยขาดการศึกษาให้รอบคอบเสียก่อนนั้นส่งผลเสียมากกว่า
เช่น
การปรับลดภาษีรถยนต์นั่งขนาดเล็ก
ไม่เกิน
2,000
ซีซี จากร้อยละ
35
เหลือร้อยละ
30
ซึ่งรัฐคาดว่าจะไม่มีผลต่อการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต
เพราะการลดอัตราภาษีจะทำให้มีการใช้รถขนาดเล็กเพิ่มขึ้น
ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บภาษีรถยนต์เพิ่มขึ้นด้วย
แต่ผลที่เกิดขึ้นจริงคือ
รายได้จากภาษีรถยนต์ต่ำกว่าที่คาดการณ์ถึง
7,000
ล้านบาทใน
4
เดือนแรกของปีงบประมาณ
2548
นอกจากนี้มาตรการนี้ยังไม่สอดคล้องกับนโยบายอื่น
ๆ
ที่รัฐประกาศใช้
เช่น
การสร้างระบบขนส่งมวลชนเพื่อให้คนหันมาใช้ขนส่งมวลชนมากขึ้น
แต่รัฐกลับสนับสนุนให้คนซื้อรถยนต์มากขึ้น
รวมทั้งนโยบายประหยัดน้ำมัน
การเพิ่มขึ้นของรถยนต์ขนาดเล็กซึ่งเป็นผลมาจากการลดภาษี
ทำให้แนวโน้มการบริโภคน้ำมันในอนาคตเพิ่มขึ้นด้วย
เป็นต้น
ดังนั้นก่อนที่รัฐจะนำเอามาตรการทางด้านภาษีมาบังคับใช้นั้น
ควรมีการศึกษาเสียก่อนว่า
มาตรการทางภาษีต่าง
ๆ
จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้หรือไม่
อัตราภาษีที่จะจัดเก็บควรอยู่ในอัตราเท่าไร
หรือควรให้นำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนได้เท่าไร
ทั้งนี้เพื่อมิให้กระทบการจัดเก็บรายได้ของรัฐในภาพรวม
ทำให้รัฐบาลสามารถรักษางบประมาณสมดุลดังที่ตั้งงบฯไว้ได้
และสามารถทำโครงการต่าง
ๆ
ที่สัญญาไว้แก่ประชาชนได้ |