เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
สหรัฐทบทวนจีเอสพีไทย
อียูจะบังคับใช้
NTBs
ใหม่
ทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการไทยสูงขึ้น
แข่งขันได้น้อยลง
ต้องเร่งปรับตัวในช่วงปี
พ.ศ.2550
ประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยอย่างสหรัฐฯ
และสหภาพยุโรป
(อียู)
จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบทางการค้า
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยไปยังประเทศเหล่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกาที่กำลังพิจารณายกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร
(จีเอสพี)
ต่อสินค้าไทยจำนวน
1,123
รายการ
หรือร้อยละ
37.3
ของรายการสินค้าที่ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ
ซึ่งจากการศึกษาของหอการค้าไทยพบว่า
ถ้าหากประเทศไทยถูกตัดสิทธิจีเอสพีจะทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยลดลงประมาณ
972
ล้านบาท
แม้เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่าไทยอาจไม่เข้าข่ายที่จะถูกตัดสิทธิจีเอสพี
แต่เงื่อนไขที่จะให้จีเอสพีนี้ยังไม่ชัดเจน
เนื่องจากจะต้องได้รับการพิจารณาจากสภาคองเกรสเสียก่อน
ในขณะเดียวกันสหรัฐฯจะมีการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายนนี้
ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการพิจารณาเงื่อนไขและกฎหมายต่ออายุจีเอสพี
นอกจากนี้สหรัฐอาจใช้ข้ออ้างเรื่องการทำรัฐประหารในไทยในการไม่ต่ออายุจีเอสพีให้กับไทยด้วย
ในขณะที่สหภาพยุโรป
(อียู)
ซึ่งขณะนี้มีข้อพิพาทที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับไทยเรื่องมาตรการกีดกันทางการค้า
กรณีที่ไทยขอให้อียูเพิ่มโควตาการส่งออกไก่ให้กับไทย
หลังจากที่อียูเปลี่ยนมาใช้ระบบโควตาภาษีแทนระบบภาษีปกติสำหรับสินค้าไก่หมักเกลือและไก่ปรุงสุก
ทำให้การส่งออกนอกโควต้าต้องเสียภาษีร้อยละ
53
ขณะที่ในโควตาเสียภาษีเพียงร้อยละ
10.9
เรื่องนี้คาดว่าจะทราบผลในช่วงปลายปี
พ.ศ.2549
ซึ่งผลที่ได้อาจกระทบต่อการส่งออกไก่ของไทยในปี
พ.ศ.2550
นอกจากนี้คาดว่าอียูจะนำมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี
(NTBs)
อีกหลายมาตรการมาบังคับใช้
เช่น
วันที่
4
พฤศจิกายน
พ.ศ.2549
คาดว่าอียูจะบังคับให้ผู้ส่งออกสินค้าอาหารสัตว์และอาหารมนุษย์
ต้องมีใบรับรองการตรวจสอบสารไดออกซินตามปริมาณที่กำหนด
และในวันที่
1
มกราคม พ.ศ.2550
อาจบังคับใช้มาตรการสุขอนามัยสินค้าสัตว์น้ำในสินค้าปลาและผลิตภัณฑ์หอย
กุ้ง
และปู
รวมทั้งคาดว่าจะประกาศใช้มาตรการตรวจสอบการตกค้างในสิ่งแวดล้อมในเร็วๆ
นี้
หลังจากที่อียูระบุว่าการที่ประเทศไทยเผาศพมากถึงวันละ
10,000–100,000
ศพ
การเผาที่ไม่สมบูรณ์อาจทำให้มีสสารบางอย่างปะปนเข้ามาในห่วงโซ่อาหารและตกค้างอยู่ในอาหารได้
กฎระเบียบทางการค้าที่เข้มงวดมากขึ้น
จะทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น
และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลกลดลง
สูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับประเทศคู่แข่งมากขึ้น
ดังนั้นก่อนมาตรการต่าง
ๆ
จะมีการบังคับใช้ในปีหน้า
ภาครัฐควรสนับสนุนในการสร้างมาตรฐานสินค้าส่งออก
โดยให้มีห้องปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่เพียงพอ
เช่น
ห้องปฏิบัติการตรวจสารไดออกซิน
ซึ่งขณะนี้มีอยู่แห่งเดียวและไม่สามารถใช้งานได้เต็มที่
ขณะที่ภาคเอกชนควรเน้นการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันมากกว่าการหวังพึ่งสิทธิพิเศษทางการค้าต่าง
ๆ
เพราะสิทธิพิเศษทางการค้าทำให้ผู้ประกอบการขาดแรงจูงในการพัฒนาตนเอง
ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันมากขึ้นในระยะยาว
|