เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
บาร์เตอร์เทรดข้าวไทยแลกเครื่องบินบราซิล
900 ล้าน เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงและบุคคลสำคัญของรัฐบาลใช้ราชการส่วนตัว
คิดดีแล้วหรือ ?
กรณีที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2548
ให้กระทรวงกลาโหมไปพิจารณาเกี่ยวกับการเจรจากับประเทศบราซิลที่จะขายเครื่องบินให้กับกองทัพบกเพื่อใช้งานทั่วไป
โดยให้ไปทำการตกลงในการจัดซื้อแบบบาร์เตอร์เทรด โดยนำข้าวไปแลก ในมูลค่า 900
ล้านบาท ผมอยากจะตั้งคำถามว่า การแลกข้าวกับเครื่องบินนี้เพื่อประโยชน์ของใคร
คิดอย่างมีเหตุผลเพื่อประโยชน์ชาติสูงสุดแล้วหรือไม่
ทั้งนี้การเสนอของบประมาณจัดซื้อเครื่องบิน ด้วยเหตุผลเพื่อสนับสนุนการเดินทางของผู้บังคับบัญชาระดับสูง
และบุคคลสำคัญของรัฐบาลในการเดินทางไปตรวจราชการสำคัญ
เช่นภารกิจรักษาความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การใช้เหตุผลเช่นนี้
ผมคิดว่าประชาชนคงรับได้ยาก เพราะไม่มีความสมเหตุสมผล
หรือความจำเป็นแม้แต่น้อยที่ต้องทำเช่นนั้น เพราะที่ผ่านมา ผมยังไม่เห็นว่า
การเดินทางไปตรวจราชการในแบบที่ทำกันอยู่ จะทำให้ภารกิจล่าช้าหรือไม่ทันการณ์
อีกทั้งการตรวจราชการไม่ใช่เป็นภารกิจประจำวัน
เหตุการณ์เร่งด่วนเป็นครั้งคราวย่อมสามารถหาช่องทางอื่น ๆ ได้
ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องบินส่วนตัวแต่อย่างใด
ดังนั้น ค.ร.ม.ต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ว่า
การตัดสินใจครั้งนี้คิดอย่างรอบคอบที่สุดแล้วหรือไม่ เป็นการใช้งบประมาณ
(ซึ่งอยู่ในรูปของข้าว) ที่มีจำกัดอย่างคุ้มค่ามากที่สุดแล้วหรือไม่ มีทางเลือกอื่น
ๆ ที่ประหยัดกว่าหรือไม่
หากนำข้าวไปแลกสินค้าอื่นที่เกิดประโยชน์ต่อคนในประเทศมากกว่าจะดีกว่าหรือไม่
และหากรัฐบาลสามารถแจกแจงได้ก่อนตัดสินใจซื้อว่า จำเป็นอย่างไร
แต่ละวันจะมีใครใช้บ้าง ใช้ทำภารกิจอะไร
เหตุใดจึงไม่นำเครื่องบินประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาใช้งานให้คุ้มค่า
เพื่อให้ประชาชนเห็นว่า
รัฐบาลได้ตัดสินใจโดยเห็นแก่ประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนทั้งประเทศแล้ว
ทำให้ไม่เกิดข้อสงสัยว่าใครบางคนเป็นผู้รับประโยชน์
ผมยังไม่เข้าใจว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติในเรื่องนี้ได้อย่างไร
ยังมีความไม่สมเหตุสมผลอีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
เหตุใดจึงต้องเลือกซื้อเครื่องบินจากประเทศบราซิล ไม่เลือกซื้อจากประเทศอื่น
ข้อมูลเหล่านี้ควรจะเผยแพร่ต่อประชาชนเพื่อให้ได้รับทราบด้วย
|