|
เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
“โครงการ
Ranking
2006”
ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
(สกอ.)
ที่มีการเปิดเผยเมื่อวันที่
31
ส.ค.ที่ผ่านมา
ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย
ทั้งในส่วนที่เห็นด้วยกับการจัดอันดับที่จะทำให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา
แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับและได้ออกมาทักท้วงการจัดอันดับดังกล่าว
ทั้งในแง่ตัวชี้วัดที่เลือกใช้
ความครบถ้วนและความน่าเชื่อถือของการกรอกข้อมูลที่ทำโดยแต่ละมหาวิทยาลัย
ตลอดจนประโยชน์ที่จะได้รับและการนำไปใช้ได้จริงของข้อมูล
ทั้งนี้ในระดับสากลมีการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยสถาบันที่เป็นที่รู้จักหลายสถาบันโดยมีวัตถุประสงค์ในภาพรวมคือ
เพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางแก่นักศึกษาในการเลือกศึกษาต่อ
สำหรับบริษัทต่างๆ
ที่จะคัดเลือกบุคคลจากมหาวิทยาลัยเข้าทำงาน
ตลอดจนนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
อาทิ
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยของ
The
Times
Higher
Education
Supplement
โดยนิตยสารไทม์
ซึ่งเป็นการจัดอันดับคะแนนตามเกณฑ์
ประกอบด้วย
5
เกณฑ์หลัก
ได้แก่
การประเมินโดยคณาจารย์ในสาขาวิชา
สัดส่วนคณาจารย์ต่อนักเรียน
คณาจารย์จากต่างประเทศ
นักศึกษาจากต่างประเทศ
และอัตราส่วนการถูกอ้างอิงในวารสารวิชาการต่อจำนวนคณาจารย์
โดยแต่ละเกณฑ์จะถูกให้น้ำหนักแตกต่างกัน
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยของ
The
Academic
Ranking
of World
Universities
โดยสถาบันของอุดมศึกษา(Institute
of
Higher
Education)
ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวถง
(Shanghai
Jiao
Tong
University)
ซึ่งเป็นการจัดอันดับคะแนนตามเกณฑ์ประกอบด้วย4เกณฑ์คือคุณภาพการศึกษาคุณภาพของคณะผลงานวิจัย
ขนาดของสถาบัน
ซึ่งการจัดอันดับของสถาบันนี้เชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือ
เพราะเป็นการจัดอันดับคุณภาพเชิงปริมาณโดยรวมทุกสาขาวิชา
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยของ
Webometrics
ที่จัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจและการมีส่วนร่วมในการเผยแพร่องค์ความรู้สู่เว็บไซต์ของสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ
และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้างทั่วโลก
การจัดอันดับของ
Webometrics
จะบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบันฯ
หากพิจารณาจากแนวทางการจัดอันดับข้างต้น
ผมเห็นว่า
การจัดอันดับสถาบันการศึกษาจะช่วยสร้างบรรยากาศการแข่งขัน
ทำให้เกิดการตื่นตัวในการพัฒนาคุณภาพสถาบันการศึกษา
แต่การจัดอันดับนั้น
ควรมีเกณฑ์ที่เหมาะสม
สอดคล้องสภาพของมหาวิทยาลัย
อาทิ
สอดคล้องกับหลักการของมหาวิทยาลัยอย่างครบถ้วน
คือ
สอดคล้องตามภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยในการจัดการเรียนการสอน
การวิจัย
การบริการวิชาการ
และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอย่างครบถ้วน
เพื่อนำไปสู่การตื่นตัวในการพัฒนาคุณภาพ
และสร้างบรรยากาศแข่งขัน
เพื่อใช้เป็นกรอบประเมินและพัฒนาคุณภาพ
ประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลในการดำเนินการของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งได้ชัดเจนขึ้น
จัดอันดับเป็นกลุ่มตามเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
คือ
สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่งมีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นจุดมุ่งหมายในการจัดการศึกษา
หรือสาขาวิชาที่เป็นจุดเด่นหรือจุดแกร่งต่างกัน
การจัดอันดับการแข่งขันจึงควรมุ่งเน้นให้เฉพาะมหาวิทยาลัยที่มีเอกลักษณ์ใกล้เคียงกันเปรียบเทียบกันเอง
เช่น
กลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำ
กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ
กลุ่มมหาวิทยาลัยทางด้านเกษตรกรรม
และกลุ่มมหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยี
เป็นต้น
ตลอดจนแบ่งการแข่งขันออกเป็นกลุ่มตามเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง
เช่น
ด้านเทคโนโลยี
ด้านการท่องเที่ยว
หรือตามคณะหรือสาขาวิชา
เช่น
คณะแพทยศาสตร์
คณะรัฐศาสตร์
เป็นต้น
หาวิธีจัดอันดับเพื่อให้เกิดการแข่งขันในเชิงสร้างสรรค์
และลดผลเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นให้น้อยสุด
เช่น
ประกาศเฉพาะอันดับต้น
ๆ
อย่างเป็นทางการ
หรือจัดอันดับโดยการให้ดาวมากกว่าการเรียงตามลำดับ
เป็นต้น
การพยายามผลักดันให้มหาวิทยาลัยไทยพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เทียบเท่ากับสากลนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับว่าเป็นความสำคัญระดับหนึ่ง
เนื่องจากเรากำลังถูกนับรวมเข้าสู่ยุคของการแข่งขันระหว่างประเทศอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้
ไม่ได้หมายความว่า
มหาวิทยาลัยทั้งหมดต้องพัฒนาตนเองให้เป็นไปตามเกณฑ์เหล่านั้นทั้งหมด
เพราะนั่นเท่ากับเป็นการทำลายระบบการศึกษาที่มีความหลากหลายลง
หากแต่เราควรผลักดันให้มหาวิทยาลัยมีจุดแกร่งของตนเอง
และพัฒนาบนพื้นฐานการวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ใหม่
ตามศักยภาพของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง
ซึ่งจะส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพการอุดมศึกษาให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ
และนานาชาติต่อไป
|