กระแสความไม่พอใจของประชาคมมหาวิทยาลัยต่อนโยบายของรัฐในการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ
สาเหตุหนึ่งเนื่องจาก
ที่ผ่านมายังไม่มีหลักประกันที่สร้างความมั่นใจแก่ผู้เรียนผู้ปกครอง
สังคม
รวมถึงประชาคมมหาวิทยาลัย
ประเด็นเหล่านี้
รัฐจำเป็นต้องชัดเจน
เพราะจะเป็นตัวชี้ทิศทางอุดมศึกษาไทยในอนาคต
จากการที่ผมได้มีโอกาสอภิปรายในวาระรับหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรามคำแหง
พ.ศ.
….
การเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง
พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ.
….
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
พ.ศ.
….
เมื่อสมัยรัฐบาลชุดที่ผ่านมา
ผมมีข้อเสนอเกี่ยวกับการลดแรงเสียดทานจากกระแสดังกล่าว
โดยการสร้างหลักประกันทั้ง
5
ด้าน
อันได้แก่
หลักประกันแก่ผู้เรียน
เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้เรียนได้รับความเป็นธรรมในการรับภาระค่าเล่าเรียน
เช่น
จัดทำกรอบค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงการศึกษา
และการเข้าถึงอุดมศึกษาของผู้เรียนยากจน
ด้อยโอกาส
ในรูปของกองทุนเพื่อการศึกษาแก่ผู้เรียนยากจน
ทั้งกองทุนจากรัฐบาล
มหาวิทยาลัย
และภาคเอกชน
และกำหนดสัดส่วนการอุดหนุนคนกลุ่มนี้ร้อยละเท่าใด
หลักประกันแก่สังคม
เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สังคมในการที่มหาวิทยาลัยจะยังคงเจตนารมณ์เดิมในการดำเนินการเพื่อรับใช้สังคม
ไม่ถูกทุนนิยมครอบงำ
และให้สังคมมีส่วนร่วมในการดำเนินนโยบาย
เช่น
การระบุเป็นเจตนารมณ์ในการร่างกฎหมายของการออกนอกระบบ
ที่ยังต้องดำเนินการเพื่อสังคม
การระบุสัดสัดส่วนของกลุ่มคนอย่างชัดเจนในส่วนของคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่มาจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก
รวมถึงการอุดหนุนในบางสาขาวิชาที่ไม่สร้างรายได้
แต่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
เช่น
ปรัชญา
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน
หลักประกันด้านคุณภาพการศึกษา
เพื่อให้สังคมเกิดความมั่นใจในการรักษา
และพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน
การวิจัย
การบริการสังคมของมหาวิทยาลัยภายหลังการออกนอกระบบ
โดยการจัดอันดับระดับสาขาวิชาหรือคณะ
แทนการจัดอันดับภาพรวมของมหาวิทยาลัย
การประกันคุณภาพการศึกษาทั้งจากหน่วยงานประเมินคุณภาพทั้งภายในและภายนอก
ทั้งหลักสูตรภาคปกติ
และภาคพิเศษที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้น
หลักประกันแก่บุคลากรในมหาวิทยาลัย
เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พนักงานมหาวิทยาลัยในการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและร่วมตัดสินใจด้านการบริหารมหาวิทยาลัย
รวมถึงการเรียกร้องความเป็นธรรมจากนายจ้าง
และการถูกเอาเปรียบ
โดยการเปิดช่องกฎหมายให้พนักงานสามารถรวมตัวกัน
เพื่อดูแลสิทธิประโยชน์และความมั่นคงของพนักงานด้วยกันเอง
และมีอำนาจต่อรองในการนำข้อเรียกร้องเข้าสู่การพิจารณาของมหาวิทยาลัย
หลักประกันแก่มหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบ
เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีความพร้อมและมีทุนมากพอที่ดำเนินการ
โดยไม่เป็นการผลักภาระค่าใช้จ่ายไปยังผู้เรียนมากเกินความจำเป็น
เช่น
เงินช่วยเหลือสนับสนุนมหาวิทยาลัยที่ไม่มีความพร้อม
เงินตั้งต้นมหาวิทยาลัย
ใช้กลไกภาษีช่วยระดมทุนจากภาคเอกชน
ยกเว้นภาษีบางด้านแก่มหาวิทยาลัย
ไม่ว่ามหาวิทยาลัยจะออกนอกระบบหรือไม่
ผมเห็นว่าประเด็นสำคัญคือ
การที่มหาวิทยาลัยของรัฐทุกแห่งควรเพิ่มบทบาทตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็น
ด้านการผลิตกำลังคนของประเทศระยะยาวที่มีคุณภาพสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ
ด้านวิชาการและด้านการศึกษาวิจัยที่มีคุณประโยชน์ต่อสังคม
ด้านหลักสูตรการสอนที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนและสังคม
รวมถึงด้านความแตกต่างตามศักยภาพของมหาวิทยาลัยที่สร้างความโดดเด่นในด้านนั้นอย่างเชี่ยวชาญ
ซึ่งเป็นการพัฒนามหาวิทยาลัยไทย
ให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ