เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
เมื่อวันที่
7
ก.ย.2548
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ถอนร่างพระราชบัญญัตินโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ พ.ศ
.
โดยให้เหตุผลว่าเพื่อ รอการปฏิรูประบบราชการ
ให้เข้าที่เข้าทางดีเสียก่อน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมคิดว่าไม่มีความสมเหตุสมผลใด ๆ
ทั้งสิ้นกับการขอเลื่อนกฎหมายฉบับนี้ออกไป
ยิ่งเมื่อพิจารณาเอกสารประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้
ได้ระบุถึงสถานภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทยที่กำลังอยู่ในสภาพถดถอยอย่างน่ากลัว
ดัชนีชี้วัดต่าง ๆ ของไทยมักอยู่ในอันดับรั้งท้าย
และได้ชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นในร่างกฎหมายว่า
ต้องการให้การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยให้ไปในทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
มีความเป็นเอกภาพและประสิทธิภาพทั้งในด้านการใช้ทรัพยากร
และงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด
แม้ว่าหากต่อไปจะมีการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากการปฏิรูประบบราชการก็ตาม
เราสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดอื่น ๆ ในขั้นแปรญัตติต่อไปได้
ไม่เพียงเท่านั้น หากมองย้อนไปในความเป็นมาและกระบวนทางกฎหมายต่าง ๆ
ในกฎหมายฉบับนี้ มีประวัติการเดินทางที่ยาวไกลตั้งแต่ปี พ.ศ.
2540
ที่สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์เป็นผู้ริเริ่มร่างขึ้นมา
โดยมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะ
2
ครั้ง,
จัดให้มีการอภิปรายเรื่องร่าง พ.ร.บ.
1
ครั้ง,
มีการจัดประชุมสัมมนาโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์อีก
1
ครั้ง,
สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์มีการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้
ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่วมถึง 4
ครั้ง
(ระหว่าง
ปี พ.ศ.
25432546 )
โดยผ่านขั้นตอนการตรวจจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(คณะพิเศษ)
โดยมีการประชุมรวมทั้งสิ้น 6
ครั้ง
และผ่านกระบวนการหลายอย่างอีกมากมาย
จนกระทั่งได้มาบรรจุเป็นวาระในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในครั้งที่ผ่านมานี้
จากความเป็นมาของร่าง พ.ร.บ.
ฉบับนี้ ผมจึงมีความมั่นใจขึ้นไปอีกระดับหนึ่งว่า ร่าง พ.ร.บ.
ฉบับนี้ ไม่ได้ร่างมาอย่างไม่รอบคอบแน่
ดังนั้นผมจึงมีความสงสัยและคับข้องใจเป็นอย่างยิ่ง โดยอยากตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่า
หนึ่ง
เหตุใดฝ่ายรัฐบาลจึงต้องการขอถอน
ร่าง พ.ร.บ.
ฉบับนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด สอง
ร่าง
พ.ร.บ.
ฉบับนี้จะถูกนำกลับมาพิจารณาอีกครั้งหรือไม่
เมื่อใด ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อได้ยินข่าวจากรัฐบาลที่จะชะลอการปฏิรูประบบราชการออกไปอย่างไม่มีกำหนดแล้ว
ความหวังที่ร่าง พ.ร.บ.
ฉบับนี้ จะผ่านเข้ามาในสภาอีกครั้งก็คงจะริบหรี่ตามลงไปด้วย
ท้ายนี้ผมขอยืนยันว่าเราควรสร้างความเป็นเอกภาพ และ ประสิทธิภาพ
ในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ
อย่าให้สะดุดด้วยปัญหาเพียงบางด้านบางมุมเลยครับ
|