แนวคิดเรื่องการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืนเริ่มได้รับการยอมรับและกล่าวถึงมากขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก
รวมทั้งประเทศไทย
แนวคิดนี้ได้เน้นให้คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา
โดยพยายามผลักดันให้มีการพัฒนาคุณภาพของคนผ่านทางการศึกษา
ดังตัวอย่างประเทศเวียดนามที่พยายามปฏิรูปการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้นในระดับสากล
โดยล่าสุดรัฐบาลเวียดนามได้วางแผนที่จะสร้างมหาวิทยาลัยเพื่อจะให้เป็นแม่แบบของการเรียนรู้
โดยมีการขอความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
ทั้งด้านการออกแบบ
การสร้างหลักสูตรและการบริหารจัดการ
เพื่อสร้างมหาวิทยาลัยนานาชาติที่สามารถแข่งขันกับมหาวิทยาลัยในภูมิภาคและทั่วโลก
สำหรับแนวทางการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยคือ
จะมีการเชื่อมต่อข้อมูลกับแหล่งวิทยาการทั้งในและต่างประเทศ
เพื่อให้นักศึกษาเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกยิ่งขึ้น
และดำเนินการโดยไม่หวังผลกำไร
เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าเรียนได้
ตลอดจนการมีพันธกิจในการพัฒนานักศึกษาให้ออกไปรับใช้สังคม
และสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจโดยตรง
ความน่าสนใจของแนวคิดนี้คือ
การคิดเชิงยุทธศาสตร์
และคิดเชิงบูรณาการ
-คิดเชิงยุทธศาสตร์
โดยการนำผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารระดับสูงของสถาบันศึกษาที่มีชื่อเสียงมาช่วยออกแบบการบริหารจัดการมหาวิทยาลัย
ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างทางลัดในการพัฒนาคุณภาพให้กับมหาวิทยาลัยให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซึ่งมีความเป็นไปได้มากกว่าการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยตนเอง
-คิดเชิงบูรณาการ
โดยแนวคิดดังกล่าวคำนึงถึงประโยชน์ด้านอื่น
ๆ ด้วย
กล่าวคือ
เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับหลักสูตรการศึกษา
เป็นทางเลือกในการศึกษาต่อของนักศึกษาทั้งในประเทศและภูมิภาค
และอาจเป็นช่องทางคนในภูมิภาคและทั่วโลกหันมาสนใจประเทศเวียดนามมากขึ้น
ทั้งในแง่ความสามารถในการแข่งขัน
การลงทุน
เปลี่ยนมุมมองของหลายประเทศที่มีต่อเวียดนาม
และการพัฒนาคนในประเทศให้มีคุณภาพ
เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
เมื่อหันกลับมามองประเทศไทย
ปัญหาสำคัญที่ประเทศไทยเผชิญคือ
การพัฒนาประเทศไม่ได้เน้นพัฒนาการศึกษาเป็นอันดับแรก
แต่เน้นการเจริญเติบโตของตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
ซึ่งการเติบโตมาจากการลงทุนข้ามชาติและพึ่งพิงเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
ไม่ได้เกิดจากการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และความสามารถ
ทำให้ขาดความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและต่อยอดองค์ความรู้
และทำให้มีความเสี่ยงที่จะขาดความสามารถในการแข่งขันในภาวะที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสังคมฐานความรู้
อย่างไรก็ตาม
การพัฒนาการศึกษาของชาติจะต้องมียุทธศาสตร์ที่ชาญฉลาด
ไม่ใช่การทุ่มงบประมาณแบบปูพรมโดยขาดยุทธศาสตร์
ทั้งนี้ผมเคยเสนอยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการศึกษาของชาติ
คือ
การพัฒนามหาวิทยาลัยบางแห่งให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก
(Elite
University)
ในประเทศไทย
ส่วนมหาวิทยาลัยอื่น
ๆ
ควรพัฒนาให้เป็นมหาวิทยาลัยที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
(Niche
University)
เช่น
เดียวกับการอนุญาตให้บางโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพสูง
(Elite
School)
เพื่อนำรายได้จากสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพสูงมาช่วยพัฒนาการศึกษาของชาติทั้งระบบ
นอกจากนี้
การพัฒนาระบบการศึกษาจะต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน
การศึกษาต้องไม่เป็นเพียงเครื่องมือเสริมระบบเศรษฐกิจ
โดยเน้นเพียงการสร้างความรู้สำหรับการประกอบอาชีพเท่านั้น
แต่หน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการศึกษาคือ
สร้างคนให้เกิด
"ปัญญา"
เพราะปัญญาจะช่วยให้คนประยุกต์ใช้ความรู้ได้อย่างถูกต้องและดีงาม
ซึ่งเป็นการพัฒนามนุษย์ที่ยั่งยืน
ไม่ใช้การสร้างคนเพื่อตอบสนองระบบเศรษฐกิจแต่เพียงประการเดียวเท่านั้น