เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
จากการประชุมรัฐสภาฯ
สมัยสามัญทั่วไป
ครั้งที่
6
เมื่อวันพุธที่
28
เมษายน
ได้มีวาระพิจารณาร่าง
พ.ร.บ.ที่รัฐสภามีมติเห็นชอบให้พิจารณาต่อ
จำนวน 22
ฉบับ โดยมีร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรวม
11
ฉบับ
ผมได้แสดงความคิดเห็นในสภาฯ
ว่า สาระในร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัย
โดยเฉพาะในเรื่องคุณภาพ
เมื่ออ่านแล้วยังไม่เกิดความมั่นใจอนาคตมันสมองของชาติ
เสนอว่าการร่างกฎหมายควรคิดนอกกรอบ
โดยมุ่งประเด็นคุณภาพมหาวิทยาลัยเป็นสำคัญ
ผมเห็นว่าเราควรมีวิธีการที่จะบอกว่า
มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งของไทยคุณภาพอยู่ตรงไหน
วัดกันได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์
และต้องมีระบบที่ให้เกิดการแข่งขัน
เพื่อทุกมหาวิทยาลัยจะพัฒนาตนเองสู่ระดับที่สูงขึ้นเรื่อย
ๆ
และเสนอแนวทางว่า
ควรมีการจัดอันดับ
มหาวิทยาลัยติดดาว
โดยมีมาตรฐานที่ชัดเจนชี้วัดมาตรฐานของมหาวิทยาลัย
อาจกำหนดให้เป็นดาว
1-5
ดาว
หรือจัดอันดับ
(ranking)
การจัดอันดับจะช่วยให้มหาวิทยาลัยรู้ตัวว่าถูกจับตามอง
เกิดแรงจูงใจพยายามยกระดับตนเองให้อยู่ในอันดับที่สูงขึ้น
ก่อให้เกิดการแข่งขันการพัฒนาด้านคุณภาพมากขึ้น
นอกจากนั้นควรพัฒนาคุณภาพมหาวิทยาลัยด้วยวิธีอื่น
ๆ อาทิ
การให้เงินเดือนอาจารย์แต่ละคนไม่เท่ากัน
ขึ้นอยู่กับผลงาน
โดยมีเกณฑ์มาตรฐาน
เพื่อให้เราสามารถได้คนที่ดีที่สุด
เก่งที่สุดมาเป็นอาจารย์
และ
ทุกมหาวิทยาลัยควรพัฒนาตามจุดเด่นหรือความแกร่งของตนเอง
ทุกสาขาวิชาและคณะที่มีอยู่ควรส่งเสริมความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของมหาวิทยาลัยนั้น
และควรทำให้มีบางสาขาวิชาที่เราแกร่งมากจนคนทั้งโลกต้องมาเรียนที่เมืองไทย
อย่างไรก็ตาม
มหาวิทยาลัยจะพัฒนาได้
จำเป็นต้องมีเงินทุนประเดิมจากรัฐบาล
ผมได้เสนอว่าควรจัดงบประมาณประจำปีลงตามคณะ
และโปรแกรมสหวิทยาการเจาะจงโดยคณบดีคณะต่าง
ๆ
ควรรวมตัวกันเป็นสภาคณบดีคณะนั้น
และแบ่งงบประมาณโดยมีเกณฑ์ที่ถูกต้อง
แนวทางนี้จะเป็นประโยชน์กว่าการจัดงบตามรายมหาวิทยาลัย
ซึ่งมิได้บอกว่าเราผลิตคนตรงตามความต้องการหรือไม่
เราคงต้องหาวิธีการใหม่
ๆ
อีกมากในการพัฒนามหาวิทยาลัย
หากรัฐมนตรีนำไปปฏิบัติ
เชื่อว่าจะเป็นคุณูปการต่อประเทศชาติ
ผมและพรรคประชาธิปัตย์อยู่ฝ่ายสร้างสรรค์
เรามิได้วิจารณ์รัฐบาลแบบโคมลอย
แต่เราเสนอทางออกที่มีประโยชน์ให้
ถ้ารัฐบาลจะเพียงพิจารณาร่าง
พ.ร.บ.เหล่านี้เพียงรายมาตรา
แต่อยากให้พิจารณาว่า
เนื้อหาทุกฉบับ
เมื่ออ่านแล้ว
เรามั่นใจหรือไม่ว่าประเทศชาติจะมีมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพสมดังความต้องการของเรา