ในช่วงที่ผ่านมา
ปัจจัยด้านการเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก
ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนถดถอยลง
แต่สถานการณ์ได้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
หลังจากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่สังคมให้การยอมรับว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต
และทีมเศรษฐกิจที่มีความรู้ความสามารถเป็นอย่างดี
ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ควรฉวยโอกาสผลักดันวาระ
ซึ่งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่มีแรงจูงใจที่จะดำเนินการ
ทั้งนี้เพราะรัฐบาลใหม่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจึงไม่หวังว่าจะต้องได้รับคะแนนเสียงจากประชาชน
ทำให้อาจสามารถขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นผลประโยชน์ระยะยาวและเป็นผลดีต่อภาพรวม
แม้จะไม่ได้รับความนิยมจากประชาชนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม
ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่มีระยะเวลาการทำงานเพียง
1
ปี
จึงควรจัดลำดับความสำคัญของงาน
โดยภารกิจในระยะสั้นคือ
การฟื้นความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
การจัดทำงบประมาณปี
2550
การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากผลของนโยบายของรัฐบาลชุดก่อน
และการตัดสินใจว่าจะดำเนินนโยบายที่ต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดก่อนอย่างไร
ซึ่งมีความท้าทายที่ต้องเผชิญในหลายกรณี
อาทิ
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
รัฐบาลชุดก่อนแปรรูปโดยมีผลประโยชน์ทับซ้อน
ผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ทำให้เกิดการฟ้องร้องและยุติการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.)
ขณะที่การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
(ปตท.)
ยังอยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีกันอยู่
แม้
ปตท.จะถูกแปรรูปไปแล้ว
แต่ยังคงมีการผูกขาดในกิจการบางส่วน
และขาดหน่วยงานกำกับอิสระที่ทำหน้าที่ดูแลการแข่งขันให้เป็นธรรมและดูแลผลประโยชน์ของผู้บริโภค
ทำให้ผู้บริโภคอาจต้องรับภาระ
ขณะที่กำไรตกอยู่กับผู้ถือหุ้นเพียงบางส่วน
แม้ว่าการพิจารณาคดีการแปรรูป
ปตท.ขึ้นอยู่กับคำตัดสินของศาล
แต่สิ่งที่ทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลต้องวางแผนรองรับล่วงหน้า
คือ
หากศาลตัดสินให้การแปรรูป
ปตท.เป็นโมฆะ
รัฐบาลจะรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างไร
ทั้งการหาเงินมาซื้อหุ้นคืนจากภาคเอกชน
และผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
และสิ่งที่ต้องคิดต่อไป
คือ
แนวทางการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจควรจะเป็นอย่างไร
เพื่อให้รัฐวิสาหกิจมีเงินลงทุนเพียงพอ
มีการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
และยังสามารถจัดบริการสาธารณูปโภคได้ในราคาที่เป็นธรรม
การเจรจาการค้าเสรี
รัฐบาลเดิมเปิดเจรจาเขตการค้าเสรีกับต่างประเทศอย่างไม่รอบคอบ
โดยขาดความโปร่งใสในการเจรจา
ไม่เปิดเผยข้อตกลงการเจรจา
และขาดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างเพียงพอ
รวมทั้งไม่นำข้อตกลงเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
ซึ่งทำให้เกิดข้อถกเถียงว่าอาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
การเจรจาเอฟทีเออย่างเร่งรีบส่งผลทำให้เกษตรกรและผู้ผลิตรายย่อยต้องรับผลกระทบอย่างรนแรง
โดยที่รัฐบาลไม่ได้เตรียมมาตรการรองรับและกลไกการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบล่วงหน้า
ความท้าทายที่ทีมเศรษฐกิจใหม่ต้องเผชิญ
คือ
จะดำเนินการเกี่ยวกับการเจรจาการค้าเสรีอย่างไรต่อไป
โดยเฉพาะการเจรจาที่ยังไม่ได้ข้อสรุป
คือข้อตกลงการค้าเสรีกับญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา
การยกเลิกหรือชะลอการเจรจาออกไปอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศที่มีต่อไทย
อันเนื่องจากความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย
แต่หากดำเนินการต่อไปรัฐบาลจะถูกแรงกดดันจากภาคประชาชนอย่างรุนแรง
ประการสำคัญคือ
การกำหนดกติกาและกระบวนการเจรจาสำหรับการเจรจาต่อไปในอนาคตควรเป็นอย่างไร
การแข่งขันทางการค้า
รัฐบาลชุดก่อนละเลยการพัฒนากติกาการแข่งขันทางการค้า
ทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมในบางภาคธุรกิจ
โดยเฉพาะกิจการค้าส่งค้าปลีก
ทำให้กิจการขนาดใหญ่สามารถเข้าไปจัดตั้งในเขตเมืองและใช้กลยุทธ์ทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม
และส่งผลกระทบต่อร้านค้าโชว์ห่วยอย่างรุนแรงและกว้างขวาง
ทำให้มีการเรียกร้องจากผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อให้ภาครัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ความท้าทายอยู่ที่ว่า
รัฐบาลจะจัดการปัญหาห้างค้าปลีกข้ามชาติขนาดยักษ์ที่เข้าไปจัดตั้งในเขตชุมชนอย่างไร
เพราะได้มีการลงทุนและเปิดกิจการไปเป็นจำนวนมากแล้ว
หากรัฐบาลให้ยกเลิกการดำเนินการจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนและความเชื่อมั่นของนักลงทุน
หากจำกัดไม่ให้มีการลงทุนอีกจะเกิดความไม่เป็นธรรมระหว่างนักลงทุนรายใหม่กับรายเดิม
และทำให้เกิดการผูกขาดของกิจการเดิมที่มีอยู่
แต่หากรัฐบาลกำหนดให้สามารถจัดตั้งกิจการได้ต่อไป
รัฐบาลจะจัดการแก้ปัญหาของผู้ค้าปลีกรายย่อยได้อย่างไร
การแก้ปัญหานอมินี
หากศาลตัดสินว่าบริษัทกุหลาบแก้วเป็นนอมีนีของเทมาเส็กจริง
จะเกิดคำถามว่า
รัฐบาลจะดำเนินการกับบริษัทอื่น
ๆ
ด้วยหรือไม่
เพราะมีความเชื่อกันว่านักลงทุนต่างชาติจำนวนมากใช้นอมินีเพื่อเข้ามาถือหุ้นในประเทศไทย
หากรัฐบาลไม่ดำเนินการตรวจสอบบริษัทอื่นอาจจะเกิดข้อครหาว่าเลือกปฏิบัติ
แต่หากดำเนินคดีกับบริษัทอื่น
ๆ ด้วย
อาจทำให้เกิดการย้ายเงินลงทุนจำนวนมากออกจากประเทศไทย
ความท้าทายจึงอยู่ที่ว่า
ทีมเศรษฐกิจจะดำเนินการเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างไร
และจะรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายได้อย่างไร
โดยที่ไม่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหาย
นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่น
ๆ
ที่ยังคงเป็นความท้าทายที่ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่จะต้องเผชิญ
เช่น
การจัดการปัญหาธรรมาภิบาลในภาคธุรกิจ
ปัญหากลไกการคุ้มครองผู้บริโภค
การคุ้มครองแรงงาน
และการจัดระบบคุ้มครองทางสังคม
ปัญหาการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
เป็นต้น
แม้นายกรัฐมนตรีมีแนวนโยบายที่ไม่เน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเหมือนที่ผ่านมา
แต่การเข้ามาเป็นรัฐบาลต่อจากรัฐบาลเดิมที่มีแนวนโยบายเน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่นั้น
รัฐบาลใหม่จะต้องเผชิญปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายใต้โครงสร้างเศรษฐกิจแบบเดิม
ซึ่งมีความเสี่ยงจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ดี
คงไม่เกินความสามารถของทีมเศรษฐกิจชุดนี้ไปได้
ดร.เกรียงศักดิ์
เจริญวงศ์ศักดิ์
กรรมการบริหารและรองประธานคณะทำงานเศรษฐกิจ
พรรคประชาธิปัตย์
|