ThaiPost.net : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด


		การเมือง - ข่าว กลิ่นศพ-เห็บเหาเผ่นผู้นำเครียด7รมต.ซุ่ม 19 กรกฎาคม 2549 กองบรรณาธิการ "สุรนันทน์" รับร่วมวงกินข้าววิเคราะห์การเมืองกับอีก 6 รมต.เมื่อวันจันทร์ อ้างแค่นัดฉลองวันเกิด "สมคิด" ไม่ได้รวมหัวกดดันใคร ปิดเงียบรายละเอียดเสวนา "สุรเกียรติ์" โบ้ยไม่ได้อยู่ประชุมด้วย "นายกฯ" เครียดไม่ตอบคำถามเดินหนีขึ้นตึก "ทรท." ร้อนตัวแถลงข่าวไม่มี รมต.ไขก๊อก "เติ้ง" พูดเป็นนัย "ขาดไป 1 คน" แหล่งข่าวเผย รมต.รวมหัวกันนานแล้ว หากถึงทางตันพร้อมใจลาออกบีบ "แม้ว" สละเก้าอี้ ท่ามกลางกระแสข่าวการลาออกของรัฐมนตรีหลายคน เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามปกติ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยได้จับมือทักทายกับนายรองพล เจริญพันธุ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งมาทำหน้าที่เป็นครั้งแรก จากนั้น นายกฯ ได้ตอบคำถามถึงราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทุกวันว่าจะนำเข้าหารือในที่ประชุม ครม. เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่รัฐมนตรี 7 คนได้รับประทานอาหารร่วมกันเมื่อวันที่ 17 ก.ค.เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง ทำให้นายกฯ เดินขึ้นตึกทันทีโดยไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รักษาการ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการไปรับประทานอาหารร่วมกับรัฐมนตรีที่มีกระแสข่าวว่าจะลาออกว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ไปทานข้าวอร่อยดีจริงๆ แล้วการนัดทานข้าวเป็นเรื่องปกติ และพอดีวันที่ 15 ก.ค.เป็นวันคล้ายวันเกิดของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ แต่วันที่ 15 ก.ค.นายสมคิดไม่อยู่เพราะไปสหรัฐ เจอนายสมคิดที่นิวยอร์กก็เลยบอกทานข้าวกันดีกว่าวันเกิดอาจารย์ กลับมาก็นัดกัน 4-5 คนทานข้าวกัน ไม่มีอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่าผู้ที่ไปร่วมรับประทานอาหารด้วยเป็นคนที่มีกระแสข่าวว่าจะลาออกจากตำแหน่ง รมต. นายสุรนันทน์กล่าวปฏิเสธและว่า จริงๆ แล้วตอนนั้นนัดใครได้ก็ชวนกันไป นายพินิจ จารุสมบัติ รักษาการ รมว.สาธารณสุข ก็บอกว่าไปทานร้านนี้ดีกว่าอร่อยดี เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองหรือไม่ว่าถึงทางตันแล้ว นายสุรนันทน์กล่าวว่า รัฐมนตรี 5-6 คนไปนั่งคุยกันก็คงต้องวิเคราะห์ และให้กำลังใจนายสมคิดด้วย เมื่อไปนั่งร่วมกันก็ต้องวิเคราะห์กันเป็นธรรมดา เป็นเรื่องปกติ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิเคราะห์ถึงคำพูดของนายกฯ ที่พูดถึงผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ รวมทั้งในเรื่องของรัฐบาลจ๊อกกี้ จะเก็บแนวคิดไปเรียนนายกฯ หรือไม่ รักษาการ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ขออนุญาตพูดแค่นี้ ต้องขออนุญาตว่าเราให้เกียรติกับคนที่มานั่งทานข้าวกัน และจริงๆ เป็นการทานข้าวไม่ได้คิดว่ามาเป็นข่าว เพราะเป็นการทานกันแบบส่วนตัว แต่เมื่อเป็นข่าวก็ต้องบอกเท่านั้นเองว่าเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์กัน เราก็ยืนยันว่าช่วยกันพยายามหาทางออก และคิดว่านายกฯ เข้าใจรัฐมนตรีที่ทานข้าวกัน เพราะนายกฯ เองก็ยังแนะนำด้วยซ้ำไป รัฐมนตรีมีปัญหาอะไรกันก็ให้กินก๋วยเตี๋ยวกันคุยกัน และก่อนหน้านี้ก็มีการทานข้าวกันหลายครั้ง นักข่าวไม่รู้เอง หลังจากประชุม ครม. นายสุรนันทน์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้สอบถามอะไรเป็นพิเศษ เชื่อว่านายกฯ คงไม่ได้ติดใจอะไร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายสุรนันทน์ได้หันมาแซวผู้สื่อข่าวว่า "คราวหน้าช่วยแนะนำร้านให้ผมด้วย" นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกฯ ปฏิเสธถึงกรณีที่มีชื่อไปร่วมรับประทานอาหารกับรัฐมนตรี 5 คนว่า "ผมไม่ได้ไป ผมไม่ทราบเรื่อง เมื่อคืนผมไปเป็นประธานการแสดงโขนที่ศาลาเฉลิมกรุง" ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าจะลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ ด้วย นายสุรเกียรติ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ผมไม่พูดเรื่องการเมือง" นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการรองนายกฯ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ ไม่มีในวาระ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ได้สอบถามรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่มีชื่อไปรับประทานอาหารกันหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า ไม่มีการถามไถ่อย่างเป็นกิจจะลักษณะแต่อย่างใด ตนดูๆ ไม่เห็นมีอะไรเป็นสาระในเรื่องนี้ เมื่อถามว่าในมุมมองส่วนตัวคิดอย่างไรกับการที่รัฐมนตรีหลายคนเริ่มหาทางออกให้กับบ้านเมือง นายสุวัจน์กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่ทราบว่าเขาคุยกันอย่างไร แต่เป็นเรื่องปกติที่รัฐมนตรีจะนัดทานข้าวกัน นายสุวัจน์กล่าวว่า ตนได้สอบถามถึงเรื่องดังกล่าวจากนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รักษาการ รมช.พาณิชย์ แล้วเพราะเห็นว่ามีชื่อไปด้วย ซึ่งก็บอกว่าเป็นการไปรับประทานอาหารกันเนื่องในโอกาสคล้ายวันเกิดของนายสมคิด เมื่อถามว่ารู้สึกว่ารัฐบาลขณะนี้มีความสั่นคลอนหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า ตนคิดว่าตอนนี้การเมืองไม่ลงตัว ทุกอย่างสถานการณ์จะลงตัวได้ก็ต้องมีการเลือกตั้ง เพราะหลักของประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง ที่พรรคไทยรักไทย นายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แถลงภายหลังการประชุมว่า พรรคจะเน้นให้มีการประชุมเรื่อยๆ ทุกวันอังคาร เพราะผู้ใหญ่ในพรรคจะได้มาหารือแลกเปลี่ยนข้อมูล วันนี้ได้คุยเน้นย้ำในประเด็นของจุดยืนรัฐบาลที่จะต้องเดินหน้าต่อไป จึงขอให้ทุกฝ่ายที่มาประชุมไปกำชับคนที่อยู่ในความดูแลให้ดำเนินการในเรื่องของการหาเสียงเลือกตั้ง เพราะเป็นวิธีเดียวที่แก้ปัญหาบ้านเมืองที่แย่ลงเรื่อยๆ ได้ โดยให้ทุกคนตั้งธงเลือกตั้งไว้ที่ 15 ต.ค.นี้ ไม่ต้องลังเลรอพระราชกฤษฎีกาหรือกังวลเรื่องใดๆ แม้แต่กรณีการยุบพรรค นอกจากนี้ได้สั่งการให้ในพื้นที่รายงานผลการปฏิบัติงานมายังส่วนกลางด้วย สำหรับกรณีที่มีข่าวว่า รักษาการรัฐมนตรี 7 คนไปหารือสถานการณ์การเมืองนั้น นายวีระกล่าวว่า รัฐมนตรีที่ถูกอ้างถึงส่วนใหญ่ก็มาประชุมทั้งหมด แต่บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรประหลาดพิสดาร เพราะเป็นการเลี้ยงวันเกิดนายสมคิดในกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น และรัฐมนตรีที่มีชื่อก็คือ นายสมคิดกับนายพินิจก็เล่าออกมาเองโดยไม่มีใครถาม นายกฯ เองก็นั่งฟังเฉยๆ ก็เข้าใจ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีใครคิดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ทุกคนคิดตรงกันอย่างเดียวว่า ทำอย่างไรจะแก้ปัญหาบ้านเมืองให้สงบลง พัฒนาต่อไปได้และยินดีช่วยนายกฯ อย่างเต็มกำลัง เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคส่งมอบอำนาจให้รัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง แหล่งข่าวจากพรรคไทยรักไทยเปิดเผยว่า การหารือของ 7 รักษาการรัฐมนตรีที่เป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองตามที่เป็นข่าวนั้น ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันเป็นระยะโดยเฉพาะช่วงที่เกิดสถานการณ์คับขัน นับจากรัฐบาลต้องเผชิญวิกฤติเลือกตั้ง มีกระแสเรียกร้องให้ กกต.ลาออก รวมถึงหลังการจัดพระราชพิธีฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ทั้งนี้เพื่อประเมินสถานการณ์ โดยรัฐมนตรีในกลุ่มเห็นตรงกันว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณลาออก และให้นายสมคิดขึ้นเป็นนายกฯ ตั้งแต่ช่วงนั้น ก็จะช่วยคลี่คลายปัญหาได้ แหล่งข่าวระบุอีกว่า แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณและคนรอบข้างต้องการสู้ต่อไป จึงทำให้เกิดบรรยากาศที่เผชิญหน้าขึ้น โดยรัฐมนตรีกลุ่มนี้เตรียมเสนอแนวทางแก้ปัญหา โดยให้พรรครับฟังความเห็นเสียงส่วนน้อย ซึ่งจะเป็นแนวทางสมานฉันท์ที่แท้จริง แต่หากพรรคไม่ฟังและมีแนวโน้มที่จะสร้างเงื่อนไขไปสู่ความขัดแย้งจนเกิดการเผชิญหน้าอย่างรุนแรง บรรดารัฐมนตรีเหล่านี้ก็อาจตัดสินใจลาออก ซึ่งจะเป็นทางเลือกสุดท้ายเพื่อขอร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณยุติปัญหาทั้งหมด แม้รัฐมนตรีเหล่านี้จะไม่อยากทำเนื่องจากติดหนี้บุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี ที่ชุมชนบ่อนไก่ เขตคลองเตย วันเดียวกัน นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รักษาการรัฐมนตรี 7 คนนัดรับประทานอาหารว่า จริงหรือเปล่า มีใครบ้าง ผู้สื่อข่าวจึงไล่เรียงรายชื่อรักษาการรัฐมนตรีทั้ง 7 คนให้นายบรรหารฟัง ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกฯ และ รมว.พานิชย์, นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกฯ, นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รักษาการ รมต.สำนักนายกฯ, นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รักษาการ รมช.พาณิชย์, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รักษาการ รมว.แรงงาน, นายพินิจ จารุสมบัติ รักษาการ รมว.สาธารณสุข และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการ รมช.สาธารณสุข นายบรรหารตอบกลับมาว่า ขาดไป 1 คน คนสำคัญ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามีความเห็นอย่างไร นายบรรหารกล่าวว่า ไม่มีความเห็น แต่บ้านเมืองมันเกิดวิกฤติถึงทางตัน หมายความว่าสถานการณ์มันก็อยู่อย่างนี้ ด้านนายสฤต สันติเมทนีดล อดีตผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ 7 รักษาการรัฐมนตรีที่เป็นข่าวลาออก หรือไม่ก็ขอร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออก ถ้า 7 รักษาการรัฐมนตรีลาออกได้ ก็ถือเป็นการเสียสละครั้งสำคัญเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมือง โดยเฉพาะผู้ก่อตั้งพรรคอย่างนายสมคิด นายสุรนันทน์ และนายสุรเกียรติ์ เพราะหากลาออกกันจำนวนมาก รัฐบาลก็จะบริหารประเทศต่อไปไม่ได้ ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกสารประชาธิปัตย์ว่าจะต่อสู้ระบอบอธรรม นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย แถลงตอบโต้ว่า ทีมโฆษก ทรท.มีการตั้งข้อสังเกตว่าสอดคล้องกับเนื้อหาในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการความตอนหนึ่งว่า "ขอให้คนกรุงเทพฯ ไปเลือก ส.ก., ส.ข.พรรคประชาธิปัตย์" ซึ่งชัดเจนว่าประชาธิปัตย์ออกเอกสารมาเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้ง ส.ก., ส.ข. ซึ่งประชาธิปัตย์ทำผิดมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.การจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยมีการใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัคร มีการตั้งข้อรังเกียจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พยายามโยงพรรคไทยรักไทยกับ กกต. ทั้งๆ ที่สารประชาธิปัตย์ควรที่จะชี้แจงกรณีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงของ กทม. แต่พยายามทำให้ประชาชนเห็นว่าพรรคไทยรักไทยเป็นระบอบอธรรม นายจตุรพรกล่าวว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์บอกว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำหนังสือถึงประธานาธิบดีสหรัฐเป็นความเสื่อมเสีย ครั้งหนึ่งพรรคประชาธิปัตย์เคยจัดงานแล้วเชิญทูตจากกว่า 40 ประเทศ เมื่อครั้งประชุมใหญ่สามัญประจำปี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็พูดถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศให้คณะทูตฟังเหมือนกัน แสดงว่าหากพรรคประชาธิปัตย์มองว่าการทำจดหมายเป็นการฟ้องพ่อ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็เชิญพ่อจาก 40 ประเทศมาฟังในบ้านตัวเองเหมือนกัน และเนื้อหาสาระที่พรรคประชาธิปัตย์พูดก็สร้างความเสียหายแก่ประเทศไทยเหมือนกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานสภาที่ปรึกษาพรรค เป็นประธาน เพื่อหารือประเด็นชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในข้อกล่าวหายุบพรรคว่า ทีมกฎหมายได้เชิญผู้ที่ถูกระบุอยู่ในสำนวนข้อกล่าวหาที่อัยการส่งให้กับศาลรัฐธรรมนูญมาให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เช่น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และอดีต ส.ส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์หลายคน ซึ่งเท่าที่ฟังการชี้แจงจากบุคคลที่ถูกพาดพิงในสำนวน เห็นว่าน่าจะสู้ในคดีนี้ได้ เพราะข้อกล่าวหาเองก็มีลักษณะที่เขียนในทำนองเชื่อได้ว่า คนนี้น่าจะรู้จักกับคนนั้น แต่ไม่มีพยานเอกสารและพยานวัตถุประกอบ ทำให้เชื่อว่าไม่สามารถเอาผิดกับคนของพรรคได้ นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ รองประธานคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลงานวิจัย เรื่อง "การพัฒนาดัชนีความสุขของประเทศไทย" ซึ่งพบว่าปัจจุบันคนไทย 1.3 ล้านคนมีความสุขลดลง และยังพบอีกว่า เป้าหมายเงินเฟ้อที่ต่ำและการมีงานทำสำคัญกว่าจีดีพี "ผมได้ทำการพัฒนาดัชนีความสุข (Happiness index) โดยหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ อัตราการว่างงาน เป็นต้น กับความสุขของประชากรไทย เพื่อจะนำไปสู่การบริหารประเทศที่มุ่งความสุขของประชากรโดยตรง" นายเกรียงศักดิ์กล่าว นายเกรียงศักดิ์กล่าวอีกว่า ผลการศึกษาพบว่า ภาวะความขัดแย้งทางการเมืองและราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน เป็นเหตุทำให้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2549 คนไทยประมาณ 1.3 ล้านคน หรือร้อยละ 2.1 มีความสุขลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเงินเฟ้อมีอิทธิพลต่อความสุขมากที่สุด รองลงมาได้แก่ อัตราการว่างงาน และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามลำดับ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์ www.reporter.co.th ซึ่งเป็นของคนใกล้ชิดนายเนวิน ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์พิเศษของ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่าจากกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสมานฉันท์ แต่กลับถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปฏิเสธข้อเสนอ โดยยังคงยื่นเงื่อนไขเดิมให้นายกรัฐมนตรีลาออกเพียงสถานเดียว การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหวมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ และขอเตือนว่าอย่าทำตัวนอกกติกาเพราะสถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังไม่นิ่ง นพ.พรหมินทร์กล่าวย้ำว่า ในตอนนี้แม้พรรคไทยรักไทยและพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่กันคนละข้าง แต่ก็มีความเห็นตรงกันว่าไม่อยากให้มือที่ 3 เข้ามาแทรกแซง เพราะอาจเกิดเหตุรุนแรงขึ้นจากการปลุกปั่นกระแสทางการเมือง และต้องย้อนถามกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า "มีจุดยืนเพื่อใคร" ขณะที่พรรคพลังแผ่นดินไทได้ออกแถลงการณ์ ขอเสนอทางออกทางการเมืองด้วยการ 1.ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ที่มีความชอบธรรม เพื่อดูแลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต และ 2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนี้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขวิกฤติตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญต่อไป ทั้งนี้ พรรคมั่นใจว่าศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา และศาลปกครอง จะสามารถวินิจฉัยเพื่อหาทางแก้วิกฤติดังกล่าว หลังจากการลาออกของ กกต.และรัฐบาล.

อิสรภาพแห่งความคิด		หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ 1852 ถนนเกษมราษฎร์ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทร 240 2612 แฟกซ์ 2490295 และ 2490299 Copyright (c) 1999 Thai Journal Group. All rights reserved. Reproduction in whole or in part in any form or medium without express written permission of Thai Journal Group is prohibited. ThaiPost and the ThaiPost logo are trademarks of Thai Journal Group. (Power and Designed by Thaicast Team, KSC Commercial Internet Co.,Ltd.)

Power by Internet KSC