หากรัฐบาลยังลวง จะเรียกความมั่นใจประชาชนได้อย่างไร

เมื่อวันพุธที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผมได้รับการสัมภาษณ์จากสื่อมวลชนเรื่องข่าวเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้มากนัก หากรัฐบาลชุดนี้ยังเป็น lsquo;รัฐบาลลวงrsquo;

การที่นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาเรื่องแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น ไปเมื่อวันอังคารที่12 กรกฎาคม โดยรัฐบาลเรียกร้องให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาล ผมเห็นว่า อาจไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ หากรัฐบาลยังคงสร้างภาพลวงอยู่

ประการแรก ลวงด้วยความจริงเพียงบางด้าน ผมเห็นด้วยว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจในปัจจุบันบางตัวยังดีอยู่ แต่บางตัวมีแนวโน้มน่าเป็นห่วง ซึ่งรัฐบาลพยายามไม่บอกให้ประชาชนทราบ ตัวอย่างเช่น ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นจริง แต่สูงขึ้นเพราะภัยแล้งทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย แม้ว่ารายได้ของผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญเพิ่มขึ้น 19.7% แต่ GDP ภาคเกษตรติดลบ 8.2% ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ดีอย่างที่นายกบอก รวมทั้งการส่งออกที่เป็นไปได้ยากมากที่จะเข็ญให้โตถึง 20%

สอง ลวงด้วยนโยบายที่ไม่สมจริง นั่นคือนโยบายเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย โดยขึ้นค่าตอบแทน และอัดฉีดเงินลงทุนของภาครัฐ เพื่อขยายการจ้างงาน ซึ่งดูเหมือนเหมาะสมกับภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น แต่การกระตุ้นด้านอุปสงค์ ยิ่งทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น อาจทำให้รายได้ที่แท้จริงไม่เพิ่มขึ้นมากนัก และอาจทำให้การว่างงานเพิ่มขึ้นด้วย เพราะนายจ้างมีต้นทุนสูงขึ้น อาจทำให้ต้องปลดคนงานออก

สาม ลวงด้วยความคลุมเครือของนโยบาย โดยเฉพาะ โครงการเมกะโปรเจกต์ที่ยังไม่มีความชัดเจนของโครงการ รัฐบาลไม่สามารถชี้แจงเหตุผล เพื่อคลายข้อกังวลต่าง ๆ ได้ อาทิ รายละเอียดของการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ยังไม่มีความชัดเจน การเร่งลงทุนจะทำให้เกิดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างรุนแรงและเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ แนวทางการระดมทุนเป็นอย่างไร มีความน่าสนใจในการลงทุนหรือไม่ และจะกลายเป็นภาระต่องบประมาณในอนาคต เพราะรัฐต้องชำระหนี้ และอุดหนุนอย่างไม่สิ้นสุดหรือไม่

ประการสุดท้าย ลวงว่ารัฐบาลโปร่งใส รัฐบาลพยายามปกป้องว่าคนในรัฐบาลไม่มีการทุจริต แต่การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ 1.7 ล้านล้านบาท ยังไม่มีแนวทางที่สร้างความมั่นใจได้ว่า จะไม่เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน เหมือนโครงการที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลไม่ได้ทำสงครามปราบปรามคอร์รัปชัน ตามที่ได้สัญญาอย่างจริงจัง

ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องคิดให้รอบคอบมากขึ้นและปรับเปลี่ยนวิธีคิดของรัฐบาลที่พยายามกระตุ้นในเรื่องของจิตวิทยา โดยให้นำเสนอภาพจริงของภาวะเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหา และเกิดการลงทุนที่สมจริงอันจะนำมาซึ่งการแก้ไขวิฤตการณ์ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

admin
เผยแพร่: 
0
เมื่อ: 
2005-07-14