ให้ต่างชาติถือครองที่ดิน : นโยบายขายตรงประเทศไทย

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาและกำหนดมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมสำคัญ ที่ยังมีการลงทุนน้อยในประเทศ คณะทำงานดังกล่าวได้เสนอให้ยกกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้คนต่างชาติสามารถถือครองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยผ่านกลไกการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ และให้เหตุผลของข้อเสนอดังกล่าวว่าเพื่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

ที่ดินนับเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตและการอยู่อาศัย และถือว่าที่ดินเป็นปัจจัยยุทธศาสตร์ที่ควรสงวนไว้สำหรับคนไทย ไม่ควรเปิดช่องให้ต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของ การแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ได้จึงน่าจะสร้างความเสี่ยงต่อคนไทยและประเทศไทย

ประการแรก ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยด้อยกว่าต่างชาติ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยจะแข่งขันไม่ได้ เพราะการเปิดให้ต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินในประเทศไทยได้ โดยเฉพาะในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร น่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างรุนแรง เพราะนักลงทุนต่างชาติมีเม็ดเงินลงทุนสูงกว่าผู้ประกอบการไทยมาก

นักลงทุนต่างชาติจะสามารถกว้านซื้อที่ดินได้จำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการไทยตกอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถแข่งขันได้ และด้วยกำลังเงินดังกล่าวทำให้ต่างชาติสามารถเลือกซื้อแหล่งธุรกิจ หรือที่ดินใจกลางเมืองที่สำคัญ ๆ ได้ เช่น กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และ เชียงใหม่ เป็นต้น

ประการต่อมา ความสามารถในการเข้าถึงที่ดินของคนไทยจะลดลง เนื่องจากการปล่อยให้เงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จะทำให้มีอุปสงค์ต่อที่ดินมากขึ้น แต่ปริมาณที่ดินมีเท่าเดิม ดังนั้นราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้นด้วย ดังนั้นโอกาสที่คนไทยจะเป็นเจ้าของที่ดินจะมีความเป็นไปได้น้อยลง

ประกอบกับการให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสามารถซื้อได้ง่ายขึ้น และยังสามารถโอนเป็นมรดกให้ลูกหลานของคนต่างชาติในรุ่นต่อไปได้อีกด้วย ยิ่งไปซ้ำเติมให้คนไทยที่มีโอกาสน้อยอยู่แล้วที่จะมีที่ดินเป็นของตัวเอง ให้มีโอกาสน้อยลงไปอีก โดยเฉพาะคนชั้นกลางและผู้ใช้แรงงานที่มีรายได้น้อย

ประการสุดท้าย ประเทศจะขาดความมั่นคงทางอาหาร หากไม่มีหลักเกณฑ์การถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่รอบคอบ เมื่อเอกชนชาวต่างชาติมีเข้ามาซื้อที่ดินกันจำนวนมาก และสามารถครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์ได้ตลอดไป จะเกิดผลกระทบต่อทิศทางการผลิตของประเทศ โดยเฉพาะหากที่ดินเกษตรกรรมถูกต่างชาติซื้อไป พื้นที่เพื่อการเกษตรอาจลดลงและจะกระทบต่อความมั่นคงด้านการผลิตอาหารของประเทศ

ความเดือดร้อนของประชาชนในประเทศอาร์เจนติน่าเป็นตัวอย่างที่ดี เนื่องจากขาดที่ดินทำกินเพราะถูกต่างชาติกว้านซื้อไว้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังทำให้ผลผลิตทางการเกษตรในประเทศขาดแคลน เพราะต่างชาติที่เข้ามาซื้อที่ดินต่างทำการผลิตเพื่อส่งสินค้าเกษตรออกไปนอกประเทศ ประชาชนจึงต้องซื้อผลผลิตทางการเกษตรในราคาที่สูง ความมั่นคงทางอาหารจึงถูกต่างชาติควบคุม

ผมเห็นว่ายังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เนื่องจากในปัจจุบันนักลงทุนต่างประเทศได้เข้าเป็นผู้ร่วมทุนในธุรกิจนี้อยู่แล้ว ดังนั้นนโยบายของรัฐ น่าจะเป็นการส่งเสริมการร่วมทุน และหากมีความจำเป็น อาจจะพิจารณาเพื่อแก้ไขกฎหมายให้มีช่วงระยะเวลาเช่าที่นานเพียงพอ ที่จะจูงใจให้นักลงทุนต่างชาตินำเงินมาลงทุน

การทำสัญญาให้ต่างชาติเช่าที่ดินจะทำให้มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และกรรมสิทธิ์ยังเป็นของคนไทย แม้ระยะเวลาเช่าจะยาวนาน แต่การยกกรรมสิทธิ์ให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ นอกจากเป็นเสียสิทธิ์การครอบครองแล้ว ไม่เป็นเครื่องยืนยันว่าจะได้รายได้เข้ามา หากนักลงทุนต่างชาติประสบภาวะขาดทุน

รัฐบาลควรกำหนดขอบเขต จำนวน และระยะเวลาการถือครองที่ดินของคนต่างชาติให้ชัดเจน การกำหนดเงื่อนไขการให้สิทธิ์นักลงทุนที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายส่งเสริมการลงทุน พร้อมทั้งเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการล่าอาณานิคมจากกระแสทุนต่างชาติ

admin
เผยแพร่: 
0
เมื่อ: 
2006-02-22