ยอมรับความต่าง คือ เสรีภาพแท้

     จากข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส ได้ลงมติเห็นชอบกฎหมายห้ามหญิงชาวมุสลิมสวมเครื่องแต่งกายที่ปกคลุมร่างกายมิดชิด ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า หรือที่เรียกว่า ?นิกอบ? และ ?บุรกา? ตามที่สาธารณะ ฝ่าฝืนถูกปรับ 150 ยูโร (ประมาณ 6,100 บาท) และหากใครบังคับให้ผู้หญิงสวมผ้าปิดหน้า ต้องถูกปรับ 15,000 ยูโร (มากกว่า 610,000 บาท) ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้วุฒิสภาพิจารณาลงมติในเดือน กันยายน



     ภายหลังการลงมติดังกล่าว รัฐมนตรียุติธรรมของฝรั่งเศส ได้ออกมาเปิดเผยว่า นี่คือชัยชนะของระบอบประชาธิปไตย เป็นคุณค่าแห่งเสรีภาพที่ต่อต้านทุก ๆ การกดขี่ข่มเหง ซึ่งพยายามจะลดทอนคุณค่าของปัจเจกบุคคล คุณค่าแห่งความเท่าเทียมระหว่างชายกับหญิง  สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า การแต่งกายเช่นนี้ในฝรั่งเศสถูกพิจารณาเป็นการละเมิดสิทธิสตรี และกฎหมายนี้เท่ากับเป็นการปลดปล่อยสตรีให้เป็นอิสระ
เป็นคำกล่าวที่ทำให้ผมต้องคิดทบทวนว่า นี่คือ การปลดปล่อยสตรีให้เป็นอิสระจริง ๆ หรือ? เป็นคุณค่าแห่งเสรีภาพที่ต่อต้านทุก ๆ การกดขี่ข่มเหงจริง ๆ หรือ?


   
     การที่หญิงชาวมุสลิม ในฝรั่งเศสสวมเครื่องแต่งกายที่ปกคลุมร่างกายมิดชิด ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 2,000 คน พวกเธอถูกบังคับให้ทำ พวกเธอมาเรียกร้องและขอร้องให้สภาผู้แทนราษฎรของฝรั่งเศส ออกกฎหมายช่วยเหลือ ปลดปล่อยจากการถูกกดขี่ให้แต่งกายเช่นนี้หรือไม่?

     ไม่เลย ไม่มีการบังคับ ไม่มีการเรียกร้อง แต่ยังกลับมีผู้หญิงชาวมุสลิมออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย การออกกฎหมายนี้ เป็นการสรุปและตีความจากคนในอีกสังคมที่ให้ความเคารพในสิทธิของปัจเจก และส่งเสริมเสรีภาพการแสดงออกของปัจเจก....ในรูปแบบของตน เมื่อคนกลุ่มนี้มีอำนาจในสภา และเป็นเสียงส่วนใหญ่จึงลงมติและสั่งการให้ปฏิบัติตามได้

     ทั้ง ๆ ที่ เมื่อพิจารณาโดยปราศจากอคติ ตามหลักสิทธิมนุษยชนพื้นฐานที่ยอมรับกันทั่วโลก กฎหมายฉบับนี้เท่ากับเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของปัจเจกบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกคนควรยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย มากกว่าที่จะบังคับให้เหมือนกับคนส่วนใหญ่ โดยการอ้างว่า นั่นคือเสรีภาพที่แท้จริง

     การให้สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคแก่สตรี หรือใครก็ตาม ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเคารพในศักดิ์ศรี ความเข้าใจในความต้องการที่แท้จริงด้วย มิเช่นนั้น จะเป็นเพียงการใช้ ?อำนาจชุดใหม่? เข้าแทนที่ ?อำนาจชุดเดิม? ซึ่งครอบงำอยู่ และยัดเยียดสิ่งที่คิดว่า พวกเขาควรได้รับ โดยแท้จริงแล้วอาจไม่ใช่ก็เป็นได้

     ทางที่ดีกว่า ทุกสังคมควรส่งเสริมให้เคารพและยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย แม้ความแตกต่างบางอย่างนั้น เราอาจตีความว่านั่นมิใช่เสรีภาพ แต่หากปัจเจกคนนั้นยอมรับและยินดีที่จะทำเช่นนั้น เราควรเป็นผู้ให้ความรู้และยอมรับมากกว่าพยายามบังคับให้มีเสรีภาพในแบบเฉพาะของเรา



ที่มาของภาพ http://www.absolutbusinessbrokers.com.au/template/keyhold_orange/images/freedom.jpg

admin
เมื่อ: 
23/7/2010