ชมรมพิทักษ์รักษ์ กทม. : คณะทำงานภาคพลเมือง
เราคงเคยได้ยินการรณรงค์เพื่อประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกันมาบ้างนะครับ เช่น ปลูกต้นไม้คนละ 1 ต้นปิดไฟวันละ 1 ชม. ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก นับเป็นความคิดดี ๆ ที่แต่ละคนสามารถทำได้เองในชีวิตประจำวัน
ในขณะที่ภาคเอกชนก็มีแนวคิดเพื่อลดการใช้พลังงาน รวมถึงลดระดับการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม อาทิ คิดค้นเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานมากที่สุด การนำขยะที่สามารถมาใช้ใหม่ได้ เช่น ขวดแก้ว พลาสติก กระดาษ คืนสู่การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงโรงแรมสีเขียว ซึ่งใช้เรียกโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
การขับเคลื่อนเหล่านี้เป็นเรื่องที่ดี แต่ผมคิดว่า หากจะทำให้ประสบความสำเร็จ ต้องดึง ldquo;พลังของประชาชนrdquo; เข้ามาร่วมมือให้มากขึ้น ด้วยวิธีที่เป็นรูปธรรม ผมอยากเห็นภาคพลเมืองร่วมเป็นพลังสำคัญ ช่วยผลักดันให้เกิดกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมขับเคลื่อนให้ กทม. และประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของการลดภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้
การปลุกพลังร่วมมือจากประชาชน อาจเริ่มต้นในระดับกรุงเทพฯก่อน โดยผมเสนอว่า ภาครัฐหรือหน่วยงานของ กทม. ควรส่งเสริมบทบาทภาคประชาชนผ่านการจัดตั้ง ldquo;ชมรมพิทักษ์รักษ์ กทม.rdquo; ครอบคลุมทุกพื้นที่ อาจเริ่มจาก กทม. เมืองหลวงของเราก่อน
การดำเนินการให้เป็นรูปธรรม อาจเริ่มจาก กทม. ผลักดันแนวคิดนี้ลงไปที่สำนักงานเขตแต่ละแห่ง ให้ทุกโรงเรียน มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ หมู่บ้านจัดสรร ฯลฯ จัดตั้งชมรมฯ ในพื้นที่ของตนเอง เช่น ชมรมพิทักษ์รักษ์คลองผดุงกรุงเกษม ชมรมพิทักษ์รักษ์วงเวียนใหญ่ เป็นต้น ซึ่งแต่ละพื้นที่ควรมีอาสาสมัครเป็นหัวหน้าชมรมขับเคลื่อนงานด้านต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นจิตสำนึกสาธารณะให้กับคนในพื้นที่ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ได้มีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใกล้บ้านเรือนของตน
เมื่อเหล่าอาสาสมัครรวมตัวกันได้จำนวนหนึ่ง ให้จัดประชุมกำหนดแนวทางการทำงาน ความถนัดของแต่ละคน เป้าหมายที่อยากเห็นร่วมกัน ระยะเวลาการทำงาน อุปกรณ์เครื่องมือที่จำเป็น อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพในความคิดชัดเจน ส่งผลต่อการลงมือทำจะง่ายขึ้น และควรมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต รายการโทรทัศน์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สะท้อนแนวคิด วิธีปฏิบัติของชุมชนแต่ละแห่ง และยังช่วยเก็บบันทึกการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมของแต่ละชุมชนอีกด้วย
คณะทำงานภาคพลเมือง จะเริ่มต้นไม่ได้ หาก กทม. ทำงานเพียงลำพัง จำต้องร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อร่วมประชาสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ ดึงพลังอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมออกมาจากประชาชนให้ได้ เมื่อภาครัฐขับเคลื่อน ประชาชนย่อมเห็นทางสว่างของความสำเร็จ แม้ว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก แต่ก็ต้องแก้ไขจากทุกชุมชนร่วมทำอย่างพร้อมเพรียงกัน เราจะได้เห็นบ้านของเรา ซอยของเรา ถนนของเรา สะพานลอยของเรา และ....ของเรา สะอาดน่าอยู่อย่างยั่งยืนครับ
เผยแพร่:
0
เมื่อ:
2008-04-24